รถไร้คนขับในวันนี้ยังอยู่ในช่วงวิจัยพัฒนา ยังไม่มีตัวเงินเป็นรายได้ให้ใคร แต่มีการประเมินว่าในอนาคตจะกลายเป็นเค้กก้อนใหญ่ที่รอให้มีการแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดกันอย่างรุนแรง
ผู้ที่สนใจในในตลาดใหม่นี้อย่างจริงจัง คือ บริษัทยักษ์ใหญ่ไฮเทค โรงงานผลิตรถยนต์รายใหญ่ ผู้ให้บริการแท็กซี่ และสตาร์ทอัพอีกจำนวนมาก
เมื่อช่วงกลางปี 2017 อินเทลหนึ่งในผู้นำเทคโนโลยีของโลกได้รายงานผลการวิจัยตลาดรถไร้คนขับในอนาคต มีตัวเลขเป็นยอดเงินมหาศาลที่น่าตกใจมาก ทั้งๆที่วันนี้ยังไม่เห็นตัวเงินอะไร ตลาดยังเป็นศูนย์อยู่เลย
อินเทลเชื่อว่ารถไร้คนขับจะสร้างรายได้ในตลาดทั่วโลกมากถึง $800,000 ล้านต่อปีในปี 2035 และเพิ่มเป็น $7,000,000 ล้านในปี 2050 คิดเป็นเงินไทยได้ 234 ล้านล้านบาท
มีผลการสำรวจรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า รถไร้คนขับจะช่วยป้องกันการตายจากอุบัติเหตุบนท้องถนนได้มากถึง 585,000 คน ทั้งนี้เป็นช่วงระหว่างปี 2035 – 2045 ซึ่งมีการนำรถไร้คนขับมาใช้กันอย่างกว้างขวาง
ผู้คนทั่วโลกจะมีเวลาว่างเพิ่มขึ้น 250 ล้านชั่วโมงต่อปี เพราะไม่ต้องเสียเวลาขับรถเอง
รถไร้คนขับจะช่วยตัดค่าใช้จ่ายด้านความปลอดภัยบนท้องถนนในส่วนที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุได้มากกว่า $234,000 ล้าน ในช่วงปี 2035 – 2045
โกลด์แมนแซคส์ยักษ์ใหญ่ด้านการเงินของโลกคาดการณ์ว่าธุรกิจแท็กซี่ออนไลน์จะเติบโตจากวันนี้ที่มีรายได้ต่อปี $5,000 ล้าน กลายเป็น $285,000 ล้านภายในปี 2030 เพราะจะมีการใช้รถส่วนตัวน้อยลงอย่างมาก
รถไร้คนขับจะกลายเป็นโรโบแท็กซี่ที่มีประสิทธิภาพสูงแต่มีค่าใช้จ่ายต่ำ ทำให้บริษัทแท็กซี่ออนไลน์มีอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานประมาณ 20% ไม่ต้องแบ่งรายได้มากๆให้คนขับรถจริงอีกต่อไป
วันนี้ยังเดาไม่ถูกว่าใครจะได้กินเค้กคำใหญ่ในอนาคต แต่ถ้าดูจากข่าวการพัฒนารถไร้คนขับที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ดูเหมือนว่า เทสล่าและกูเกิล มีท่าทีมาแรงที่สุด!!!
https://www.theverge.com/2017/6/1/15725516/intel-7-trillion-dollar-self-driving-autonomous-cars
https://www.bloomberg.com/news/features/2018-05-07/who-s-winning-the-self-driving-car-race