ดาวน์ เมเยอร์ริกส์ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของซีไอเอ พูดถึงงานของเจ้าหน้าที่ซีไอเอในงาน 2018 GEOINT Symposium ที่เมืองแทมป้า รัฐฟลอริด้า สหรัฐอเมริกา เธอบอกว่าในปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในงานสายลับทั่วโลก
รัฐบาลของแต่ละประเทศมีรายชื่อของบุคคลการทูตและเจ้าหน้าที่ซีไอเอที่ประจำการอยู่ในประเทศต่างๆ และมักจะเป็นบุคคลที่โดนรัฐบาลของประเทศฝ่ายตรงข้ามสอดแนมอยู่เสมอ
งานใต้ดินของสามลับแบบหนัง เจมส์ บอนด์ 007 ที่เห็นในหนังเป็นเรื่องที่อาจไม่เกินเลยความจริง
เรื่องการขับไล่บุคคลทางการทูตในกรณีที่ รัสเซียไล่คนของอเมริกา และอเมริกาไล่คนของรัสเซีย ก็ล้วนเกิดจากการโดนเปิดโปงงานสายลับ แหล่งข่าวและสายลับของอเมริกาในประเทศจีนบางคนจบลงด้วยการถูกฆ่าหรือหายตัวไป
เมื่อก่อนนี้ สายลับหรือบุคคลที่น่าสงสัยมักโดนติดตามด้วยคนจริง แต่ในปัจจุบันถูกติดตามด้วยเทคโนโลยี เจ้าหน้าที่ซีไอเอที่ทำงานอยู่ใน 30 ประเทศ กำลังถูกติดตามตัวด้วยเทคโนโลยีสารพัดอย่าง
กล้องวงจรปิดที่มีอยู่มากมายในเขตเมืองถูกใช้เป็นตาในการเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ซีไอเอ โซเชียลมีเดียหรือโทรศัพท์มือถือก็เป็นเบาะแสทำให้ติดตามตัวได้ว่าอยู่ที่ไหน หรือทำอะไรอยู่ได้ง่ายมาก แล้วยังมีเทคโนโลยีที่เป็นความลับอีกหลายอย่างที่ช่วยในการสอดแนม
รองผู้อำนวยการฝ่ายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของซีไอเอบอกว่า.. เพื่อหลีกเลี่ยงการเฝ้าระวังดิจิตอลที่แพร่หลายในหลายประเทศ ทางซีไอเอมีแผนโต้กลับกิจกรรมเหล่านี้โดยใช้ปัญญาประดิษฐ์มาช่วยงานของสายลับ
ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา CIA มีโครงการอยู่เกือบ 140 โครงการที่เอา AI เข้ามาช่วยทำงาน
ดาวน์ เมเยอร์ริกส์ ไม่สามารถเปิดเผยความลับในรายละเอียดว่าใช้ AI ในงานสายลับของ CIA อย่างไรบ้าง แต่มีการแย้มให้ฟังว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง เช่น
สามารถทำแผนที่แสดงที่ตั้งของกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ในเมืองใหญ่ต่างๆของโลกได้ เวลาสายลับซีไอเอออกปฏิบัติการจะได้หลบเลี่ยงกล้อง หนีการสอดส่องของฝ่ายตรงข้ามได้
โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์อีเล็กโทรนิกส์หรือสื่อโซเชียลที่ใช้ สามารถสร้างข้อมูลเทียมเพื่อหลอกผู้สอดแนมฝ่ายตรงข้ามว่า..เจ้าหน้าที่ซีไอเคคนนั้นกำลังใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ
งานเหล่านี้ค่อนข้างเป็นความลับ คนของซีไอเอคงไม่กล้าเปิดเผยอะไรมาก แต่คนที่ทำงานด้านเทคโนโลยีรู้ดีว่า AI มีศักยภาพมากแค่ไหน
ลองจิตนาการ หรือดูจากเหตุการณ์จริงก็ได้
แฮกเกอร์ใช้โปรแกรม AI ช่วยเจาะคอมพิวเตอร์ได้ ปัญญาประดิษฐ์ช่วยประมวลผลข้อมูลของประเทศฝ่ายตรงข้ามได้ ใช้อินเตอร์เน็ตที่ไหนก็บอกที่ตั้งของคนหรือหน่วยงานลับต่างๆได้ มีดาวเทียมที่โคจรเก็บภาพอยู่ทั่วโลกแล้วใช้ AI ช่วยประมวลว่าเป็นภาพอะไร เอา AI ไปสร้างความปั่นป่วนในสังคมของประเทศฝ่ายตรงข้ามก็ทำได้ง่ายและขยายในวงกว้างได้ด้วย
การแทรกแซงการเลือกตั้งในสหรัฐฯจากรัสเซียก็มีเค้าเป็นเรื่องจริง มีข่าวปลอมข่าวปล่อยมากมายจาก AI เข้ามาในสื่อโซเชียล ทำให้คนอเมริกันไขว้เขวในการเลือกตัวแทนของตน
โดนเขาทำก็มี แต่ทำเขาก็มาก!!!
สหรัฐฯเองก็ไม่ใช่ย่อยเหมือนกัน CIA เข้าไปแทรกแซงประเทศต่างๆทั่วโลกอยู่เป็นประจำ อเมริกาเป็นผู้นำเทคโนโลยีของโลกอยู่แล้ว ต้นตำรับ AI คงเคยทำอะไรที่ลึกลับยอกย้อนซ่อนเงื่อนกับหลายประเทศแน่ๆ!!!
https://edition.cnn.com/2018/04/22/politics/cia-technology-tracking/index.html
https://thenextweb.com/artificial-intelligence/2018/04/23/cia-plans-to-replace-spies-with-ai/