(บทความ : สุทธิชัย ทักษนันต์)
ผมมีประสบการณ์ตรงที่ต้องเดินทางไป เซินเจิ้น บ่อยมาก ผมมีธุรกิจที่ต้องไปประชุมหรือไปเยี่ยมคู่ค้าที่ ฮ่องกง และ เซินเจิ้น ปีละ 5-6 ครั้ง ในบางครั้งมีธุระในฮ่องกงแต่เลือกไปพักที่ เซินเจิ้น แทนการนอนค้างคืนใน ฮ่องกง
ค่าโรงแรมใน เซินเจิ้น ถูกกว่า ฮ่องกงมาก ห้องก็ใหญ่และสะดวกสบายกว่า มีอินเตอร์เน็ตให้ใช้ฟรีทุกห้อง ส่วนใหญ่จองห้องผ่าน Agoda
จากฮ่องกงฝั่งเกาลูน ไป หลอหวู่ ด่านเข้า เซินเจิ้น ประเทศจีน นั่งรถไฟฟ้าไปได้สะดวกมาก ใช้เวลาประมาณสามสิบกว่านาที ทำวีซ่าเข้าจีนที่ด่านก็ได้ ตรวจคนเข้าเมืองจีนทำงานได้ค่อนข้างรวดเร็ว แต่ถ้าไปในช่วงเทศกาลอาจต้องเผื่อเวลามากหน่อย
เข้า เซินเจิ้น แล้ว สามารถใช้รถไฟฟ้าเดินทางไปได้เกือบทุกแห่ง ค่ารถไฟฟ้าถูกกว่าในกรุงเทพฯมากกว่าหนึ่งเท่าตัว
มีทริปหนึ่งช่วงไปงานแสดงสินค้าที่ เซินเจิ้น ไปพร้อมกับเพื่อน 3 คน ได้เห็นลูกเล่นเซ็งลี้ของแม่ค้าจีนแล้วต้องยกนิ้วให้จริงๆ
เจอสาวจีนคนหนึ่งเฝ้าบูทอยู่ในงานแฟร์ คุยภาษาอังกฤษได้แคล่วคล่อง เลยถามว่าเรียนภาษาอังกฤษจากไหน เธอบอกว่าเรียนด้วยตัวเอง ดูจากทีวีและคอมพิวเตอร์
ช่วงที่ว่างจากงานแฟร์ ไปเดินเล่นย่านสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ หัวเฉียงเป่ย ศูนย์รวมไอทีของ เซินเจิ้น มีห้างไอทีแบบพันทิปมากกว่า 20 แห่งอยู่ในย่านเดียวกัน ช่วงกำลังจะกลับจากการเดินในห้างหนึ่ง เกิดฝนตกหนัก เห็นแม่ค้าจีนยืนอยู่หน้าทางออก เอาร่มมาเสนอขาย ร่มคันเล็กๆที่ปกติหาซื้อได้ในราคา 10 หยวน หรือประมาณ 50 บาท พอฝนตกเธอเสนอขายในราคา 20 หยวน ขึ้นราคาอีกเท่าตัว ใครไม่อยากเปียกก็ต้องจำใจซื้อร่มจากเธอ
ช่วงฝนตกใน เซินเจิ้น บริเวณทางออกของห้างสรรพสินค้าหรือตึกที่มีคนเดินเข้าออกมากๆ จะเห็นคนมายืนขายร่มบ่อยมาก เป็นจุดขายและจังหวะเวลาที่เหมาะสมสุดๆ ไม่มีการง้อลูกค้า ขอต่อรองราคาอย่างไรก็ไม่ยอมลดราคาให้
พวกผมไม่ได้พกร่มไปด้วย และไม่อยากซื้อร่ม เห็นฝนตกหนักก็เลยยังไม่กลับที่พัก ไปเดินช็อปต่ออีกตึกหนึ่ง คนเดินกันค่อนข้างน้อยเพราะฝนตก ไม่ค่อยมีลูกค้ารายใหม่ๆเดินเข้ามา เมื่อเดินถึงเค้าเตอร์ร้านหนึ่งเห็นแม่ค้าจีน 3-4 คน ยืนขายของอยู่ พวกผมไม่ได้ตั้งใจจะแวะดูของที่ร้านของพวกเธอ แต่พอเดินไปหน้าร้านเธอ เธอก็เอา “หวังเหล่าจี๋” เครื่องดื่มสมุนไพรคล้ายกับน้ำจับเลี้ยง เปิดกระป๋องให้พวกเราคนละกระป๋องทันที พอได้รับไมตรีจากแม่ค้าก็เลยอยากช่วยอุดหนุนบ้าง เธอลงทุนเลี้ยงน้ำราคากระป๋องละ 3 หยวน ให้แล้ว เลยไม่อยากให้เธอขาดทุน กะว่าจะอุดหนุนกันเล็กน้อยเพื่อให้เธอมีกำไรคุ้มค่าน้ำที่เลี้ยงให้ฟรี
พวกเรา 3 คน ไม่มีใครพูดจีนกลางได้ ต้องใช้ภาษาอังกฤษสื่อสาร อาหมวยจีนก็พูดอังกฤษไม่ค่อยได้…. แต่ผมเห็นเธอคุยกันเองด้วยภาษาแต้จิ๋ว ซึ่งผมฟังเข้าใจและพอพูดได้ เป็นภาษาเดียวกับที่เคยคุยกับพ่อแม่ ผมดีใจมากที่มาเจอ กากี่นั้ง เป็นคนแต้จิ๋วเหมือนกัน แต่ดูเหมือนพวกเธอจะดีใจยิ่งกว่า เพราะเริ่มมั่นใจว่าคงคุยหว่านล้อมให้ซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น
อาแปะวัยห้าสิบกว่าสามคนจากเมืองไทย พูดแต้จิ๋วได้ถึง 2 คน ต้องซื้อของเธอแน่ๆ!!!
อาหมวยจีนบอกว่าผู้หญิงไทยสวยมากเลย ได้ดูละครไทยที่ออกอากาศในจีนอยู่เป็นประจำ คนจีนชอบดูและติดตามดูกันมาก เพื่อนผมก็ตอบไปว่า…คนจีนคนไทยพี่น้องกัน สาวจีนก็สวยเหมือนกัน!!! สาวเซินเจิ้นบอกพวกผมว่าผู้หญิงจะให้สวยไม่ยาก เอาแป้งผัดๆบนหน้า แต่งหน้าเข้าไปหน่อย ก็ผ่องขึ้นมาได้
การต่อรองซื้อของกลายเป็นเรื่องสนุก และตามธรรมเนียมการซื้อของใน เซินเจิ้น ต้องต่อรองกันดุเดือดหน่อย ขอลดราคาเป็นเท่าตัวไว้ก่อน แม้อยากช่วยอุดหนุน แต่ก็ไม่อยากเสียรู้มากเกินไป
สองคนไทยที่พูดแต้จิ๋วได้ ก็พอจะต่อลองกันได้เข้มข้น ได้สินค้าราคาที่พอใจหลายรายการ เช่น เทปเล็ต พาวเวอร์แบ็งค์ คียร์บอร์ดไอแพด หูฟัง ลำโพง และทรัมไดร์อีกเป็นร้อยอัน
แม่ค้าจีนเสนอขายทรัมไดร์ขนาด 16 GB ให้ในราคาอันละ 40 หยวน ผมขอลดราคาลงมาเท่าไรก็ไม่ยอม บอกไปว่าถ้าลดเหลือ 30 หยวนจะซื้อ 50 อัน เธอก็ไม่ยอม สุดท้ายก็ต้องใช้มุกเดินหนีขอลาทำเป็นไม่สนใจ ซึ่งดูเหมือนจะได้ผลจริงๆ เธอเริ่มเล่นบทนางกวัก เรียกกลับมาคุยกันต่อ และบอกว่า…. จะขายให้อันละ 40 หยวน ไม่ลดราคานะ แต่จะเพิ่มความจุให้เป็น 32 GB!!!
มันเป็นข้อเสนอที่ยากจะปฏิเสธจริงๆ จ่ายเงินเท่าเก่าแต่ได้ทรัมไดร์ที่จุขึ้นอีกหนึ่งเท่าตัว!!!
สรุปแล้ววันนั้น ทั้งสามคนเสียเงินซื้อของอาหมวยจีนไปประมาณ 10,000 หยวน แต่คนที่ซื้อมากที่สุดเป็นเพื่อนคนที่พูดแต้จิ๋วไม่ได้เลย
เพื่อนผมคนที่พูดจีนไม่ได้ คุยกับแม่ค้าไม่รู้เรื่อง แต่ซื้อของได้ในราคาถูกกว่าคนที่พูดจีนแต้จิ๋วได้ทั้งสองคน เพื่อนคนนี้เป็นเจ้าของธุรกิจระดับร้อยล้านในไทย มีลูกเล่นแพรวพราวแบบพ่อค้ามือโปร เขานั่งแบบชิวๆดูพวกผมต่อรองราคาสินค้าแต่ละตัวกับอาหมวยจีนเป็นชั่วโมง แล้วก็ยิ้มอย่างเดียว พอพวกผมได้บทสรุปราคาที่ดีที่สุดและจ่ายเงินซื้อแล้ว เขาบอกว่าขอซื้อ แท็ปเล็ต พาวเวอร์แบ็งค์ คียร์บอร์ดไอแพด หูฟัง เอาอย่างละ 2 อัน แต่ขอลดราคาลงจากที่ขายให้พวกผมสองคนที่พูดจีนแต้จิ๋วได้ประมาณ 20% ซึ่งเธอก็ยอมด้วยความเต็มใจ
เรื่องนี้เกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว ข้อมูลราคาสินค้าบางอย่างอาจคลาดเคลื่อนไปบ้าง
เหตุเกิดเพราะฝนเป็นใจ แต่ก็สนุกสนานมาก ขนาดพวกผมเป็นนักธุรกิจและพ่อค้าที่ค่อนข้างเชี่ยวชาญเรื่องการต่อรองอยู่แล้ว เจออาหมวยจีนยังต้องยอมแพ้!!!