เติ้ง เสี่ยวผิง คือคนในอดีตที่ แจ็ก หม่า อยากพบ ถ้าไม่มีนโยบายเปิดประเทศ จะไม่มีอาลีบาบา เขาทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ทำให้จีนเป็นอย่างทุกวันนี้

ในการพูดที่อิสราเอลของ แจ็ก หม่า มีคนถามว่าถ้าเป็นไปได้ ใครคือบุคคลในอดีตที่อยากพบ?

แจ็ก หม่า บอกว่า “มีหลายคนที่ผมอยากพบ ถ้าเป็นในประเทศจีน อยากพบ เติ้ง เสี่ยวผิง ถ้าไม่มีเค้าก็จะไม่มี อาลีบาบา เขาปฏิรูปประเทศจีนซึ่งล้าหลังและปิดประเทศมานาน เขาเป็นคนบอกให้เปิดประเทศจีน…. ผมรู้ว่าเขาชอบสูบบุหรี่ เมื่อเขาหยุดสูบก็เลยป่วยแล้วก็ตายไป ผมอยากจะสูบบุหรี่กับเขาและขอบคุณเขา”

คนจีนรุ่นหลังทั้งประเทศล้วนได้รับอานิสงส์จากนโยบายเปิดประเทศของ เติ้ง เสี่ยวผิง

“แมวไม่ว่าสีอะไร ขอให้จับหนูได้เป็นพอ” คือ อมตะวาจาของ เติ้ง เสี่ยวผิง ที่พูดเหมือนเป็นการเปรียบเทียบว่า ไม่ว่าจะอยู่กันแบบระบอบไหน ขอให้ทำงานบรรลุผลให้ได้ และเป็นที่มาของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในประเทศจีน มีการเน้นเรื่องการปฏิบัติการที่ยืดหยุ่นตามสถานการณ์ ไม่ต้องยึดติดกับการปฏิวัติวัฒนะธรรมที่พรรคคอมมิวนิสต์ในยุคเหมาได้ทำมานาน

ในคราวที่ เติ้ง เสี่ยวผิง ไปเยี่ยม เซินเจิ้น ตอนที่ยังเป็นหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆที่มีแต่คนจน เขามองข้ามฝากไปประเทศจีนอีกด้านหนึ่งซึ่งเป็นฮ่องกงที่มีความเจริญมากเหลือเกิน แต่ตอนนั้นอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ มันมีความแตกต่างของฐานะความเป็นอยู่ของประชาชนทั้งสองเมืองที่อยู่ติดกันอย่างเด่นชัด และเริ่มตระหนักว่า วิธีการของคอมมิวนิสต์แบบเก่า มันไม่สามารถช่วยทำให้ความยากจนหมดสิ้นไป

ในที่สุดเลยกลายเป็นจุดเริ่มต้นการสร้าง เซินเจิ้น ให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ มีเสรีในการค้าขายมากขึ้น และในวันนี้ เซินเจิ้น ก็เปรียบเสมือน ซิลิคอน วัลเลย์ เมืองเทคโนโลยีไฮเทคของประเทศจีน

ไม่ใช่แค่ แจ็ก หม่า ที่อยากขอบคุณ เติ้ง เสี่ยวผิง เท่านั้น แต่คนจีนทั้งประเทศคงอยากขอบคุณท่านด้วย ไม่อย่างนั้นจีนคงไม่กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งเหมือนอย่างทุกวันนี้!!!

.

.

https://en.wikipedia.org/wiki/Deng_Xiaoping

.

Leave a Reply