ปี 2017 ประเทศจีนมีตัวเลข GDP หรือผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ 12.9 ล้านล้านดอลลาร์ แต่ปรากฏว่ามีตัวเลขการใช้จ่ายเงินของคนจีนผ่านทางโมบายเพย์เม้นท์มากถึง 18.8 ล้านล้านดอลลาร์
การใช้จ่ายแบบไม่ต้องมีเงินสดผ่านมือกันในประเทศจีนมีตัวเลขสูงกว่าจีดีพี ซึ่งดูแล้วน่าตกใจมาก
เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะมันเป็นการรวมเกือบทุกธุรกรรมในประเทศจีนไว้ที่โมบายเพย์เม้นท์ เช่น ค้าส่ง ค้าปลีก ออนไลน์และอ๊อฟไลน์ ไปช็อปปิ้งในห้างใหญ่หรือข้างทางก็ใช้มือถือจ่ายได้ หรือแม้แต่ไปหาชาวนาชาวสวนก็ไม่ต้องจ่ายเงินกันด้วยเงินสด
เทคโนโลยี Mobile Payment ในประเทศจีนในปัจจุบัน มีผู้ใช้อยู่ประมาณ 700 ล้านคน ไม่ได้ใช้กันเฉพาะพ่อค้า ชาวบ้านก็จ่ายเงินกันแบบดิจิตอลด้วย
ข้อดีของการเป็นสังคมไร้เงินสด เช่น
-กระตุ้นให้มีการใช้จ่ายมากขึ้น
-พ่อค้ามีรายได้มากขึ้น
-เกิดการลงทุนมากขึ้น
-การทำบัญชีง่ายขึ้น ไม่ต้องใช้คนดูแลเงินสดหรือทำบัญชีมากมาย ซึ่งเป็นที่มาของปัญหาการสูญหายและฉ้อโกง
-ผู้คนพกพาเงินสดกันน้อยลง การจี้ปล้นแย่งชิงกันก็น้อยลงด้วย
-รัฐบาลสามารถลดค่าใช้จ่ายในการพิมพ์ธนบัตรและเหรียญ
-ลดปัญหาคอรัปชั่นได้ เพราะการใช้จ่ายของแต่ละคนตรวจสอบได้ง่าย
แต่ประโยชน์ที่เด่นชัดที่สุด คือการเอาข้อมูลไปต่อยอดสำหรับงานอื่นได้อีกมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเทคโนโลยี AI
เทคโนโลยี AI จะมีประโยชน์น้อยมากหรือเกือบไม่มีความหมายอะไรถ้าไม่มี Big Data ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นพลังงานที่ช่วยขับเคลื่อนให้ AI ทำงานได้
ถ้าประเทศไทยเป็นสังคมไร้เงินสดแบบจีน แล้วเงินสีเทาเงินคอรัปชั่นทั้งหมดมีการใช้จ่ายผ่านโมบายเพย์เม้นท์ เราก็จะได้เห็นตัวเลข GDP ต่ำกว่า Mobile Payment แน่ๆ
.