ภาพที่นำมาโพสต์นี้ มาจากสไลด์ของ Dr. Kai-Fu Lee คนดังด้าน AI ของโลกในปัจจุบัน เป็นการพูดที่ Berkley ช่วงปลายเดือนกันยายน 2018 ผมได้รับอนุญาตจาก Dr. Kai-Fu Lee เพื่อขอนำเนื้อหามาเผยแพร่ในประเทศไทยแล้ว
Dr. Kai-Fu Lee เป็นคนจีนไต้หวันเรียนจบด้าน AI จาก Columbia University และ Carnegie Mellon เคยทำงานเป็นผู้บริหาร ไมโครซอฟท์ แอปเปิล และกูเกิล เคยเป็นรองประธานกูเกิล และประธานกูเกิลในประเทศจีน ในปัจจุบันเป็น Venture Capital ที่ให้ทุนสนับสนุนสตาร์ทอัพต่างๆในจีนและอเมริกา
ภาพด้านซ้ายเป็นรูปของแกลดิเอเตอร์ที่ต้องต่อสู้กันในโคลอสเซียมจนกว่าจะเหลือผู้ชนะเพียงคนเดียว เป็นการเปรียบเปรยที่บอกว่าสนามแข่งขันในตลาดประเทศจีนมันป่าเถื่อนรุนแรงเหมือนการฆ่ากันเพื่อค้นหาผู้ชนะเพียงหนึ่งเดียวของเหล่าแกลดิเอเตอร์
ในฐานะที่เคยมีประสบการณ์ตรงทั้งในอเมริกาและจีน Dr. Kai-Fu Lee ยืนยันว่านักธุรกิจในประเทศฝั่งตะวันตกมีความมุ่งมั่นต่างจากคนจีน และชาวตะวันตกมีการแข่งขันทางธุรกิจที่ดูเหมือนคนสุภาพมาก
996 หมายถึงการทำงานแบบปกติของเหล่าสตาร์ทอัพในประเทศจีน เริ่มงานเก้าโมงเช้า เลิกงานเก้าโมงตอนค่ำ และทำติดต่อกันสัปดาห์ละ 6 วัน
ภาพของคนขี่รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าส่งอาหารใส่ชุดเหลืองมีสัญลักษณ์จิงโจ้ เป็นบริการของ Meituan Waimai ที่ใช้แอปสั่งอาหารและสามารถส่งได้ทุกพื้นที่ภายในเวลา 30 นาที
Dr. Kai-Fu Lee ได้ยกเรื่องของ Meituan หรือ เหม่ยถวน เป็นกรณีศึกษาที่แสดงให้เห็นหนทางการแข่งขันและการทำงานที่มีประสิทธิภาพของสตาร์ทอัพจีน ซึ่งมี AI เป็นเบื้องหลังความสำเร็จที่สำคัญ
Meituan Dianping บริษัทแม่ของ เหม่ยถวน เพิ่งเข้าตลาดหลักทรัพย์เมื่อเดือนกันยายน 2018 และได้กลายเป็นบริษัทมหาชนที่มีมูลค่ามากถึง 4 หมื่นล้านดอลลาร์ เป็นบริษัทที่มีมูลค่าในระดับเดียวกับผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง Tesla, GM
เหม่ยถวนเตี่ยนผิงในปัจจุบันมีผู้ใช้งานในประเทศจีน 320 ล้านคน มีคู่ค้าอยู่ในแพลตฟอร์มมากกว่า 5 ล้านราย ต่อไปในอนาคตจะขยายบริการไปด้าน การเดินทาง จองโรงแรม จองตั๋วเครื่องบิน จองรถเช่า บริการเรียกรถ ฯลฯ
Dr. Kai-Fu Lee ได้พูดถึง เหม่ยถวน เพื่อเป็นกรณีศึกษาของการแข่งขันในตลาดจีนที่ต้องต่อสู้กันแบบเอาเป็นเอาตาย
ในประเทศจีนมีกลุ่มคนที่เป็นก๊อปปี้แคทหรือนักเลียนแบบจำนวนมาก พร้อมจะต่อสู้ด้วยทุกมาตรการ มีการลดแลกแจกแถมเหมือนคู่แข่ง
เหม่ยถวน เคยทำเว็บขายดีลส่วนลดแบบกลุ่มซึ่งมี Groupon จากอเมริกาเป็นต้นแบบธุรกิจ และมีคู่แข่งมากกว่าห้าพันกลุ่มที่ลอกรูปแบบธุรกิจมาทำในประเทศจีน แต่ในที่สุดด้วยการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพมากกว่า ต้นทุนต่ำกว่า ทำให้ Meituan ครองตำแหน่งผู้นำตลาด และทำให้คู่แข่งเกือบทั้งหมดต้องล้มหายตายจากไป
เหม่ยถวนในวันนี้กำลังคิดการใหญ่สำหรับประเทศจีน ไม่ใช่เพียงแค่ผู้จัดทำแอปและให้บริการขนส่งอาหารธรรมดา ไม่ได้คิดเพียงแค่ให้มีคนมาสั่งอาหารเพียงครั้งคราว
แต่สิ่งที่เป็นความตั้งใจ คือการเปลี่ยนวิถีชีวิตคนจีนให้อยู่กินอาหารที่บ้านเป็นหลัก ไม่ต้องเดินทางไปร้านอาหาร ได้อาหารอร่อยในราคาถูกกว่าไปกินที่ร้าน หรือทำเอง
เหม่ยถวน ได้ทำเรื่องที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ให้กลายเป็นความจริง กำลังทำรูปแบบธุรกิจที่สร้างความยั่งยืน และไม่สามารถมีใครมาทำเลียนแบบได้
สตีฟ จ็อบส์ เคยเปลี่ยนโลกครั้งใหญ่ในปี 2007 ด้วยการเปลี่ยนวิธีการสื่อสารของผู้คนมาใช้ไอโฟน เหม่ยถวนต้องการเปลี่ยนวิธีการกินอาหารของผู้คนด้วยการสั่งอาหารมากินที่บ้าน
วิธีที่จะเปลี่ยนวิถีชีวิตผู้คนให้เลือกที่จะสั่งอาหารมากินที่บ้านมากๆ คือการทำให้ค่าขนส่งมีราคาต่ำมากๆ ต่ำจนรู้สึกเหมือนกับเป็นค่าขนส่งฟรี
สิ่งที่ เหม่ยถวน ทำคือการจ้างพนักงานส่งของ 600,000 คน ด้วยค่าแรงขั้นต่ำ นำคนเหล่านี้มาฝึกฝนอบรมให้ทำงานได้ และหารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่มีต้นทุนถูกมาใช้ เป็นรถไฟฟ้าที่แบตเตอรี่จะหมดในทุก 2 ชั่วโมง เวลาแบตฯหมดก็ไม่สามารถรอการชาร์จไฟได้ ต้องเปลี่ยนแบตฯใหม่เพราะเวลาเป็นเงินเป็นทอง
ความสำเร็จเกิดจากการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ต้องหาช่องทางประหยัดต้นทุนอย่างต่อเนื่องทุกเดือน กระตุ้นให้มีการสั่งอาหารมากินที่บ้านกันมากๆ
ในที่สุดหลังจากใช้เงินไปนับพันล้านดอลลาร์ เหม่ยถวนก็ทำสำเร็จตามเป้าหมาย ทำให้ต้นทุนการส่งอาหารในแต่ละครั้งของทุกพื้นที่อยู่ในราคาไม่เกิน 70 เซ็น หรือประมาณ 23 บาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่คนส่วนใหญ่ยอมรับได้
หากเกิดความผิดพลาด อาจหมายถึงการล่มสลายของธุรกิจ
ลองนึกภาพดูว่า ถ้าต้นทุนโดยเฉลี่ยของการส่งอาหารแต่ละครั้งกลายเป็น 56 บาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 1 ดอลลาร์ มันหมายถึงการสูญเสียเงินวันละ 25 ล้านดอลลาร์ตามจำนวนที่มีการส่งอาหารทุกๆวัน ประสิทธิภาพที่แย่ต่อเนื่องหมายถึงการขาดทุนต่อเนื่องที่เพิ่มขึ้นทุกวัน
การบริหารจัดการของ เหม่ยถวน มี AI อยู่เบื้องหลังในการทำงานเกือบทุกขบวนการ แต่ปัญหาใหญ่อยู่ที่การบริหารจัดการคนทำงานมากถึง 600,000 คน ด้วยค่าแรงขั้นต่ำ มีการเข้าออกมาก ต้องฝึกฝนการทำงานครั้งใหญ่
การสร้าง Economy of Scale ให้มีลูกค้ามากๆ ทำให้ต้นทุนต่ำ และเป็นเรื่องที่ยากจะมีคู่แข่งรายไหนจะมาแข่งขันด้วย
สตาร์ทอัพที่คิดจะลอกแบบธุรกิจมาแข่งขันกับ เหม่ยถวน คงไม่มีทางหา Venture Capital รายไหนกล้าให้เงินทุนไปผลาญนับพันล้านดอลลาร์ หรือถ้ามีผู้ให้ทุนทำจริงจะหาข้อมูลมากมายมาให้ AI ใช้ในการขับเคลื่อนธุรกิจได้อย่างไร มันต้องมีชื่อที่อยู่เบอร์โทรศัพท์ของผู้คนที่จะมีโอกาสเป็นลูกค้าเกี่ยวข้องกับธุรกิจมากมาย
AI ของ เหม่ยถวน มีข้อมูลพฤติกรรมการกินของผู้คนซึ่งสะสมจากการส่งอาหาร 25 ล้านครั้งต่อวัน มันรู้ดีว่าคุณต้องการกินอะไรคืนนี้ สามารถส่งข้อมูลเสนอให้ลูกค้าด้วยเมนูที่ไม่ซ้ำกันได้ตลอดทั้งเดือน AI รู้ดีกว่าคนที่จะกินว่า…จะกินอะไร!?!
ฟังดูแล้วเหมือน เหม่ยถวน คงเหมือนธุรกิจที่ไร้เทียมทาน วันนี้มีเท็นเซนต์ยักษ์เทคฯจีนเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการสนับสนุนทางด้านการเงิน มี WeChat ใช้เป็นแอปเชื่อมกับธุรกิจการสั่งอาหารได้
ยังมีธุรกิจบริการแอปสั่งอาหารรายใหญ่ของจีนอีกแห่ง คือ Ele.me ของ อาลีบาบา ซึ่งเมื่อปี 2017 มีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า Meituan
แต่หลังการบริหารจัดการที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน ทำให้ปี 2018 Meituan มีส่วนแบ่งตลาดมากถึง 59.1%
อาลีบาบา คงต้องหาทางทำให้ Ele.me เป็นคู่แข่งคนสุดท้ายที่จะยืนหยัดฟาดฟันกับ Meituan ต่อไปให้นานที่สุด ถ้า แจ๊ค หม่า จะเอาเงินอีกซักหนึ่งหมื่นล้านดอลลาร์ลงมาเป็นทุนสู้ต่อไป ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไร
ตลาดส่งอาหารตามบ้านของจีนในวันนี้ไม่ใช่ธุรกิจแฟนซีเล็กๆ แต่มันได้เปลี่ยนวิถีชีวิตการกินอาหารของคนจีนจำนวนมากไปได้แล้วจริงๆ
https://www.wsj.com/articles/chinese-app-meituan-raises-4-2-billion-in-ipo-1536819691
Meituan Leads in China’s Food Delivery Market, Followed by Ele.me and Baidu