ความเป็นเลิศทางเทคโนโลยีเกือบทุกแขนงในยุคนี้และต่อไปในอนาคตอีกหลายสิบปีคงอยู่กับฝั่งอเมริกาอย่างไม่มีข้อสงสัย
แต่ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา เราได้เห็นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของจีนอย่างมาก
หากมองย้อนกลับไป 40-50 ปีก่อน การพัฒนาของจีนในวันนี้ค่อนข้างใกล้เคียงกับความก้าวหน้าของญี่ปุ่นในอดีต
ครั้งแรกที่ แจ็ค หม่า รู้จักอินเตอร์เน็ตคือช่วงที่เขาไปอเมริกา จุดเริ่มต้นธุรกิจของอาลีบาบาทั้งหมดล้วนมีเทคโนโลยีและรูปแบบธุรกิจมาจากอเมริกาทั้งสิ้น เขาเคยบ่นว่าเทคโนโลยีอเมริกันมีต้นทุนสูง แต่ในที่สุดได้กลายเป็นโอกาสธุรกิจมหาศาลแก่ แจ็ค หม่า เขาสามารถปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีและสร้างรูปแบบธุรกิจที่ไม่ต้องใช้ทุนสูงสำหรับตลาดในจีนได้
ในยุคแรกของอินเตอร์เน็ต ผู้ใช้ในจีนมีน้อยมาก ตลาดมีจำกัดตามจำนวนผู้ใช้ หนทางธุรกิจก็ต้องก็อปปี้รูปแบบมาจากอเมริกาเป็นหลัก ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันสำหรับหลายประเทศ
จีนเมื่อสิบกว่าปีก่อนได้ชื่อว่าเป็นประเทศจอมก็อปปี้ ก็อปปี้ทุกอย่างซึ่งรวมถึงเทคโนโลยี
Baidu ถูกเปรียบเปรยว่าเป็นกูเกิลแห่งเมืองจีน มีเฟซบุ๊กจีน ว็อชแอปจีน อีเบย์จีน ฯลฯ
การเลียนแบบกันเป็นเรื่องปกติ ในอเมริกาก็มีการเลียนแบบกันเองมากมาย อเมซอนเคยทำแบบอีเบย์ เฟซบุ๊กเอาอะไรหลายอย่างจากสแน็ปแชทไปใช้ ไมโครซอฟท์สร้างระบบปฏิบัติการวินโดว์โดยมีแอปเปิลเป็นต้นแบบ ฯลฯ
การทำตามอย่างกันหลายเรื่องเป็นสิ่งที่ไม่ผิดกฎหมาย แต่ใครๆก็รู้ว่าเป็นการเลียนแบบกัน
เทคโนโลยีและรูปแบบธุรกิจที่พึ่งพาเทคโนโลยียุคใหม่ของจีนในยุคนี้ มีความแตกต่างกับของอเมริกามาก มีนวัตกรรมใหม่ๆหลายอย่างถือกำเนิดในประเทศจีน เช่น VIP KID, mobike, Ant Financial
เทคโนโลยีสามารถเอามาประยุกต์ทำเป็นธุรกิจที่ทำเงินได้มาก และนักธุรกิจจีนเก่งการค้าอยู่ในสายเลือดอยู่แล้ว จะให้คนจีนคิดค้นอะไรใหม่ๆโดยไม่มีความชัดเจนว่าจะทำเงิน มันอาจไม่ค่อยมีแรงบันดาลใจเท่าไร
เด็กจีนในยุคนี้จำนวนมากเข้าไปเรียนในสายเทคโนโลยี ส่วนใหญ่มีความมุ่งมันคิดถึงผลประโยชน์ด้านการหารายได้มากๆเป็นแรงจูงใจสำคัญ
จากจุดเริ่มต้นของจีนที่ได้ชื่อว่าจีนจอมก็อปปี้ วันนี้กลายเป็นก็อปปีจีนแล้ว นอกจากก็อปปี้กันเองภายในประเทศจีน ยังถูกเลียนแบบจากหลายประเทศด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเซ้าท์อีสต์เอเชีย
ตัวอย่างของ Startup ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีแม่แบบหรือมีแรงบันดาลใจจากเทคโนโลยีจีน เช่น lyft, Grab, Garena, Go-Jek, Lazada, Habitat by Honestbee, Carousell
พื้นฐานของตลาดและเทคโนโลยีจีน รวมถึงรูปแบบธุรกิจของจีน หากเทียบกับฝั่งอเมริกา ของจีนจะมีต้นทุนถูกกว่า มีความเป็นไปได้มากกว่าที่จะประสบความสำเร็จในหลายประเทศในเอเชีย
ตัวอย่างเช่น NewGen Retail หรือค้าปลีกของคนรุ่นใหม่อย่าง Hema ของอาลีบาบา ซึ่งเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ไม่ต้องใช้แคชเชียร์ รูปแบบใกล้เคียงกับ Amazon Go ซึ่งเริ่มต้นทำในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน แต่ถ้าเปรียบเทียบเรื่องต้นทุนเทคโนโลยีแล้ว ของอเมซอนมีต้นทุนสูงกว่ามาก
Habitat by Honestbee เป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตในสิงคโปร์ที่มีรูปแบบธุรกิจเหมือนเป็นการก็อปปี้มาจาก Hema สิ่งที่เหมือนกัน เช่น ซื้อของในร้านหรือสั่งให้ไปส่งได้ จ่ายแบบโมบายเพเม้นท์ ซื้ออาหารทะเลสดๆและมีการปรุงให้แบบร้อนๆ ฯลฯ
Grab ของมาเลเซีย Go-Jek ของอินโดนีเซีย เทียบไปแล้วก็คล้ายกับ Didi Chuxing และ Meituan-Dianping ของจีน นอกจากคล้ายกันแล้ว วันนี้บริษัทจีนที่เป็นต้นแบบยังเข้าไปร่วมถือหุ้นด้วย
Lazada ที่ถือกำเนิดในสิงคโปร์ มีรูปแบบธุรกิจใกล้เคียงกับอีคอมเมิร์ซของอาลีบาบา และวันนี้อาลีบาบาก็เข้ามาซื้อกิจการไปบริหารเองแล้ว
รูปแบบธุรกิจและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีหลายอย่างที่ประสบความสำเร็จในจีน อาจมีความแตกต่างและไม่เหมาะสมกับอเมริกา
ความกังวลของโลกตะวันตกที่กลัวว่าจีนจะมีอิทธิพลเข้าไปในดินแดนของตนมากเกินไปอาจไม่เกิดขึ้น สิ่งที่เหมาะกับเอเชียมันอาจไม่เหมาะกับโลกตะวันตก
จีนในวันนี้ก็มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตลาดอยู่ในทวีปเอเชียหรือแอฟริกา ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นประเทศที่กำลังพัฒนา การหาผลประโยชน์มันยังทำไม่ได้เต็มที่นัก ทางอเมริกาคงไม่ค่อยสนใจที่จะไปหาเงินยากๆแบบนั้น….
https://www.youngparents.com.sg/family/visit-supermarket-habitat-by-honestbee/
https://www.youngparents.com.sg/family/visit-supermarket-habitat-by-honestbee/