แอปเปิลบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก เคยย่ำแย่ แต่ไมโครซอฟท์ได้ช่วยเอาไว้ ทุกสิบปีมีเหตุการณ์ใหญ่เกิดกับแอปเปิล

นับถึงวันที่ 6-11-2018 Apple Inc. เป็นบริษัทที่มีมูลค่าในตลาดมากที่สุดในโลก คือ 984,190 ล้านดอลลาร์  และในเดือนสิงหาคมปีนี้ แอปเปิลได้ชื่อว่าเป็นบริษัทมหาชนแห่งแรกของอเมริกาที่มีมูลค่าบริษัทมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์

ถ้ามองย้อนหลังประวัติศาสตร์ของแอปเปิลตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัทเมื่อ 42 ปีก่อน เราจะเห็นเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นในช่วงทุกสิบปี และทุกครั้งกลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของโลกเทคโนโลยี

แอปเปิลก่อตั้งในปี 1976 โดย สตีฟ จ็อบส์, สตีฟ วอซเนียก และโรนัลด์ เวนย์ เป็นช่วงยุคบุกเบิกของคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ และธุรกิจเดินหน้าไปได้ดีมาก โดยเริ่มเป็นบริษัทมหาชนในปี 1980

หลังจากก่อตั้งแอปเปิลได้ประมาณ 10 ปี ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัททุกคนออกจากแอปเปิลหมด ตัวสตีฟ จ็อบส์ก็โดนขับออกจากคณะกรรมการบริหารของบริษัท และได้ลาออกจากบริษัทไปก่อตั้งบริษัทคอมพิวเตอร์ของตัวเอง และไปใหญ่โตรุ่งเรืองอยู่กับ Pixar ซึ่งวันนี้เป็นส่วนหนึ่งของ วอลต์ดีสนีย์

หลังจาก สตีฟ จ็อบส์ ออกจากแอปเปิลไปได้ประมาณ 10 ปี ก็ถูกดึงกลับเข้าไปร่วมงานกับแอปเปิลอีกครั้งในปี 1997 แต่เป็นช่วงที่แอปเปิลอยู่ในอาการย่ำแย่ อาจถึงขั้นเดินหน้าต่อไปไม่ได้

ช่วงปี 1997 ชื่อเสียงของผลิตภัณฑ์แอปเปิลยังดีอยู่ แต่ถ้าเทียบกับไมโครซอฟท์แล้วห่างชั้นกันมาก ในช่วงนั้นระบบปฏิบัติการของไมโครซอฟท์เกือบจะผูกขาดตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลโลก ครองส่วนแบ่งตลาดมากกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์

ตอนที่ สตีฟ จ็อบส์ กลับมาทำงานกับแอปเปิลอีกครั้งในปี 1997 สภาวะการเงินของแอปเปิลแย่มาก มีเงินสดหมุนเวียนเพื่อทำธุรกิจต่อไปได้อีกแค่ 3 เดือน และหลังจากนั้นอาจกลายเป็นบริษัทที่ขาดสภาพคล่อง

สตีฟ จ็อบส์ กับ บิล เกตส์ เป็นคนยุคเดียวกัน บุกเบิกตลาดคอมพิวเตอร์มาพร้อมๆกัน แต่แนวทางของ บิล เกตส์ ที่สร้างระบบปฏิบัติการและซอฟท์แวร์สำหรับคอมพิวเตอร์ทุกค่ายเป็นหนทางที่ถูกต้อง และทำให้ไมโครซอฟท์กลายเป็นบริษัทคอมพิวเตอร์อันดับหนึ่งของโลก ทิ้งห่างแอปเปิลที่ยึดหลักใช้ระบบปฏิบัติการของของตัวเองมาโดยตลอด

สตีฟ จ็อบส์ และบิล เกตส์ เคยเป็นทั้งคู่ค้าและคู่แข่ง เป็นทั้งเพื่อนและศัตรูระหว่างกัน

ในปี 1997 สตีฟ จ็อบส์ ติดต่อไปหา บิล เกตส์ ซึ่งสร้างความแปลกใจให้เขามาก เขาถาม สตีฟ จ็อบส์ ว่า มาทำอะไรกับเรือที่กำลังจะจม?

ในช่วงปี 1997 ไมโครซอฟท์ โดนรัฐบาลสหรัฐอเมริกาไต่รสวนเรื่องการผูกขาดตลาดและอาจถูกบังคับให้แยกบริษัทออกเป็นหลายบริษัท

สตีฟ จ็อบส์ ใช้เรื่องการผูกขาดตลาดมาเป็นแรงจูงใจให้ บิล เกตส์ ยอมเข้ามาช่วยเหลือแอปเปิลทั้งๆที่เป็นคู่แข่งรายสำคัญ

สตีฟ จ็อบส์ บอก บิล เกตส์ ว่า ถ้าไมโครซอฟท์อยู่เพียงลำพังคงไม่เป็นผลดีต่อบริษัทของเขาแน่

ในที่สุด ไมโครซอฟท์ ได้เข้ามาเป็นหุ้นส่วนแอปเปิล เอาเงิน 150 ล้านดอลลาร์มาอัดฉีดแอปเปิลให้อยู่ในตลาดต่อไปได้ คอมพิวเตอร์ของแอปเปิลได้เปิดรับให้ใช้ไมโครซอฟท์อ๊อฟฟิซได้ แล้วยังตั้ง Internet Explorer เป็นบราวเซอร์ของแอปเปิลด้วย

บิล เกตส์ ในยุคนั้นไม่ได้มีภาพของนักบุญเหมือนที่เราเห็นในยุคนี้ แต่ได้ชื่อว่าเป็นนักธุรกิจสุดเขี้ยวที่พร้อมจะฆ่าคู่แข่งทุกราย แต่การกู้แอปเปิลเอาไว้ มันเป็นผลดีต่อทั้งสองฝ่าย ทำให้ ไมโครซอฟท์ ไม่โดนเล่นงานเรื่องการผูกขาดตลาดรุนแรงเกินไป

การช่วยเหลือของไมโครซอฟท์ในปี 1997 ทำให้แอปเปิลเดินหน้าธุรกิจต่อไปได้ และสามารถสร้างปรากฏการณ์พลิกโฉมครั้งสำคัญของโลกเทคโนโลยี  ซึ่งมันเกิดขึ้นหลังจากนั้นสิบปี

วันที่ 9 มกราคม 2007 คือวันแรกที่โลกได้รู้จักสมาร์ตโฟน จากการเปิดตัวของ iPhone ได้กลายเป็นประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของโลกเทคโนโลยี ทำให้ Apple กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในปัจจุบัน

แม้ว่าวันนี้แอปเปิลยังเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก แต่ดูจากแนวโน้มต่างๆแล้วน่าเป็นห่วงมาก มีสัญญาณหลายอย่างที่ดูเหมือนคล้ายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงปี 1997

ผู้ใช้ไอโฟนซึ่งหมายถึงระบบปฏิบัติการ iOS มีจำนวนลดลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ระบบปฏิบัติการสมาร์ตโฟน Android มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ผู้ที่เคยใช้ iOS  พอเริ่มหันไปใช้ Android ก็มีผู้ใช้จำนวนมากไม่ย้อนกลับไปใช้ระบบปฏิบัติการของแอปเปิลอีก

นอกจากข่าวดีเรื่องแอปเปิลกลายเป็นบริษัทมหาชนแห่งแรกของอเมริกาที่มีมูลค่ามากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ แต่ก็มีข่าวร้ายหลายเรื่องตามหลังมาในปี 2018

สมาร์ตโฟนของแอปเปิลมีโปรแกรมตั้งค่าให้เครื่องทำงานช้าลงเมื่อใช้ไปนานๆ โดยทางแอปเปิลบอกว่าเพื่อให้ใช้งานได้นานขึ้น ในขณะที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่เชื่อว่าเป็นแผนกระตุ้นให้มีการซื้อไอโฟนเครื่องใหม่มากขึ้น

ไอโฟนเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศจีนเป็นหลัก แต่วันนี้เจอสงครามการค้าที่ โดนัลด์ ทรัมป์ พยายามผลักดันให้โอโฟนมาผลิตในอเมริกา มันจะส่งผลทำให้สินค้าแอปเปิลที่มีราคาแพงอยู่แล้ว ยิ่งมีราคาแพงขึ้นไปอีก

ตำแหน่งผู้นำตลาดสมาร์ตโฟนของ iPhone ก็ถอยหลังลงมาเรื่อยๆ เคยตามหลังแค่ Samsung มานาน ปีนี้เริ่มเสียตำแหน่งเบอร์สองให้กับ Huawei และอาจโดนแบรนด์จีนอีกหลายแบรนด์วิ่งแซงหน้าในอนาคตด้วย

พอไอโฟนเสียท่าเรื่องยอดขายสมาร์ตโฟน วันนี้ก็มีการประกาศว่านับจากนี้ต่อไปจะไม่รายงานตัวเลขรายละเอียดของยอดขายสมาร์ตโฟนอีกแล้ว อ้างเหตุผลสารพัดอย่าง แต่ทุกคนรู้ดีว่า แอปเปิลไม่อยากให้ใครเห็นว่าโดนคู่แข่งทิ้งห่างเรื่องยอดขายไปมากเท่าไร

แม้ว่า Apple จะยังเป็นบริษัทมหาชนที่มีมูลค่าสูงสุด แต่วันนี้มีมูลค่าต่ำกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์แล้ว

การตัดสินใจไม่ขอเปิดเผยจำนวนไอโฟนที่ขายได้กลายเป็นข้อครหาว่า แอปเปิลต้องการปิดบังข้อมูล และทำให้นักวิเคราะห์หลายสำนักไม่แนะนำให้ลงทุนกับหุ้นของ Apple มากๆเหมือนกับช่วงหลายปีที่ผ่านมา

สินค้าออกใหม่ของ แอปเปิล เคยสร้างความตื่นเต้นและเป็นที่รอคอยของคนทั่วโลก แต่ในวันนี้ไม่มีภาพแบบนั้นให้เห็นอีกแล้ว!!!

.

.

.

.

https://www.cnet.com/news/iphone-xr-goes-on-sale-around-the-world/

.

https://www.cnbc.com/2018/11/05/apple-draws-second-downgrade-on-weaker-iphone-expectations.html

.

Leave a Reply