ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งที่ 33 นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ลี เซียนลุง พูดถึงข้อขัดแย้งระหว่างอเมริกากับจีน และสิ่งที่จะกระทบกับอาเซียนไว้น่าฟังมาก…
“ถ้าคุณเป็นเพื่อนกับสองประเทศซึ่งอยู่คนละข้างกัน บางครั้งมันเป็นไปได้ที่จะเข้ากับทั้งสองฝ่ายได้ บางครั้งมันก็รู้สึกอึดอัดมากกว่าเมื่อพยายามเข้ากับทั้งสองฝ่าย”
“ผมคิดว่ามันน่าจะดีกว่าสำหรับพวกเราที่ไม่ต้องเลือกข้าง แต่สถานการณ์อาจทำให้อาเซียนต้องเลือกข้าง ผมหวังว่ามันจะไม่มาเร็วๆนี้”
นโยบายอเมริกาต้องมาก่อนของ โดนัลด์ ทรัมป์ สร้างความปั่นป่วนกลายเป็นสงครามการค้ากับจีนและหลายๆประเทศทั่วโลก การเติบโตทางเศรษฐกิจของหลายประเทศในปีนี้จะต้องผันผวนรุนแรงแน่ๆ
การยึดครองหมู่เกาะสแปรตลีของจีนเป็นปัญหาสำหรับบางประเทศในอาเซียน แต่ก็ได้แต่มองพี่ใหญ่ใช้กำลังตามใจชอบตอบโต้อะไรไม่ได้ กำลังที่มีมากกว่าช่วยชี้ผิดเป็นถูกได้
ในปัจจุบันอิทธิพลของจีนในอาเซียนมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี สินค้าและบริการจีนรุกคืบเข้ามาอย่างรุนแรงในทุกประเทศซึ่งรวมถึงไทยด้วย
ประเทศในอาเซียนหลายประเทศมีปัญหาภายในเรื่องการเมือง แต่ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับจีน เพราะจีนไม่เคยสนใจและไม่ยุ่งเกี่ยวกับระบอบการปกครองของประเทศไหน
คอมมิวนิสต์ เผด็จการ ประชาธิปไตยเต็มใบ ประชาธิปไตยครึ่งใบ ประชาธิปไตยแอบแฝง ไม่เคยเป็นปัญหากับจีน พี่ใหญ่จีนเซ็งลี้ด้วยได้หมด
ในขณะที่ประเทศในอเมริกาและยุโรป อาจมีข้อจำกัดบางอย่างทำให้ไม่สามารถติดต่อค้าขายได้สะดวกกับประเทศที่มีปัญหาเรื่องประชาธิปไตย
อย่างกรณีของประเทศไทยที่มีการเข้ามายึดอำนาจและปกครองโดยทหารมานานกว่าสี่ปี ช่วงแรกไทยถูกต่อต้านจากยุโรปและอเมริกา แต่ช่วงหลังมีการผ่อนปรนมากแล้ว เพราะยิ่งมีการทิ้งระยะห่างกับไทยมากขึ้น ก็เหมือนเป็นการผลักให้ไทยไปคบหาจีนมากขึ้น
นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ลี เซียนลุง ไม่ได้บอกว่าเมื่อถึงวันที่ต้องเลือกข้างจริงๆ จะอยู่ข้างไหน?
ถ้าประเทศไทยต้องเลือกข้างระหว่างอเมริกากับจีนจริงๆ คุณคิดว่าเราควรเลือกข้างไหนดี?