ข่าวร้าย:ปี2025งาน52%จะหายไป, ข่าวดี:มีงานใหม่เกิดขึ้นมากกว่า เตรียมพร้อมสำหรับการพลิกโฉมโลก

ปี 2025 หุ่นยนต์และระบบออโตเมชั่นจะเข้ามาทำงานแทนที่งานของมนุษย์ในปัจจุบัน 52%

Future of Jobs Report 2018 ที่จัดทำโดย World Economic Forum รายงานให้เห็นสัดส่วนของงานระหว่างคนกับเครื่องจักรในปัจจุบันและอนาคตดังนี้

2018 คน 71% เครื่องจักร 29%

2022 คน 58% เครื่องจักร 42%

2025 คน 48% เครื่องจักร 52%

งานที่ใช้คนทำ 71% ในวันนี้ ในปี 2025 จะใช้คนทำเหลือเพียง 48%

ผลการศึกษามีรายละเอียดรายงานด้วยว่า หน้าที่การงานในปัจจุบันที่มีอยู่ 75 ล้านงานที่เคยใช้คนทำ จะถูกแทนที่โดยเครื่องจักรและระบบอัตโนมัติภายในปี 2025 แต่ในขณะเดียวกันพบว่ามีหน้าที่การงานที่สร้างขึ้นใหม่มากถึง 133 ล้านงาน

นับเป็นข่าวดีว่ามีหน้าที่การงานใหม่เพิ่มขึ้น 58 ล้านงาน แต่ปัญหาอยู่ที่ว่ายังไม่มีความแน่ชัดว่าลักษณะงานใหม่ที่ว่านี้เป็นอย่างไร ไม่คุ้นเคยและไม่รู้แน่ชัดว่าเป็นอะไร นั่นหมายถึงการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกโฉมของหน้าที่การงานในอนาคต

ตัวอย่างประเภทของงานที่มีอนาคต เช่น

-Data Analyst and Scientists

-AI and Machine Learning Specialists

-Process Automation Specialists

-Software and Applications Developers and Analysts

-Sales and Marketing Professionals

-Big Data Specialists

-Digital Transformation Specialists

-New technology Specialists

-Organizational Development Specialists

-Information Technology Services

-New Energy Supply

-Advances in Computing Power

-Advances in Mobile Internet

-Advances in Cloud Technology

ประเภทของงานในอนาคตที่จะเริ่มหายไป เช่น

-Data Entry Clerks

-Accounting, Bookkeeping and Payroll Clerks

-Administrative and Executive Secretaries

-Assembly and Factory Workers

-Client Information and Customer Service Workers

-Business Services and Administration Managers

-Accountant and Auditors

-Material-Recording and Stock-Keeping Clerks

-General and Operations Managers

-Postal Service Clerks

โดยภาพรวมแล้ว มีงานหลายอย่างในอนาคตที่ยังต้องใช้คนทำจำนวนมาก เช่น งานที่ต้องใช้เทคโนโลยีใหม่ งานที่ต้องใช้ความชำนาญพิเศษ งานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ งานที่ต้องใช้มนุษย์สัมพันธ์ ฯลฯ

ในอนาคต งานที่เคยใช้คนทำซ้ำๆมีรูปแบบการทำงานที่ค่อนข้างชัดเจนจะเริ่มหายไป ซึ่งเหมารวมทั้งในส่วนของงานนั่งโต๊ะในสำนักงานและงานที่ต้องใช้แรงงาน

งานหนักที่ต้องใช้แรงงานถูกแทนที่โดยหุ่นยนต์มาอย่างต่อเนื่องหลายสิบปีแล้ว หุ่นยนต์ในอนาคตมีอิสระในการเคลื่อนไหวและทำงานได้แบบคนมากขึ้น ไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็นหุ่นยนต์ที่ทำงานเพียงอย่างเดียวเป็นหลัก ไม่ได้ติดตั้งอยู่ประจำตำแหน่งชัดเจนเหมือนหุ่นยนต์ในโรงงานที่มีอยู่ในปัจจุบัน

จากงานในปัจจุบันที่มีระบบ Off Line จำนวนมาก เมื่อมันกลายเป็นระบบ On Line มากขึ้น การโอนถ่ายข้อมูลเพื่อนำไปใช้ในแต่ละงานก็ง่ายขึ้น ช่วยลดทอนงานไปจำนวนมาก

อินเตอร์เฟซในรูปแบบของภาพและเสียงสามารถแปลงเป็นข้อมูลดิจิตอลได้ง่ายขึ้น กล้องเห็นหน้าคนก็บอกได้ว่าชื่ออะไรมีข้อมูลส่วนตัวอะไร เคยทำอะไรมาบ้าง AI ได้ยินเสียงก็จำได้ว่าเป็นใคร รู้ว่าเป็นเสียงอะไร สามารถปรับเปลี่ยนข้อมูลจากหลายทิศทางที่แตกต่างกันให้กลายเป็นฐานข้อมูลดิจิตอลที่เอามาประมวลผลและทำงานตามที่มีการโปรแกรมได้

ถ้าระบุเจาะจงเป็นงานที่จะเริ่มลดน้อยลงหรือหายไป เช่น พนังงานบันทึกข้อมูลสารพัดอย่าง งานด้านบัญชี งานเลขานุการ คนงานประกอบชิ้นส่วนในโรงงาน ฯลฯ

รายงานผลการวิจัยของ World Economic Forum ปี 2018 เป็นไปในทิศทางเดียวกับผลการวิจัยของสำนักอื่นที่มีการทำมาแล้วหลายครั้ง

มันไม่ได้ดูแย่ไปหมด สำหรับใครที่พร้อมจะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ยังสามารถไปได้ดีกับงานใหม่ๆที่จะเกิดขึ้นมากมายในอนาคต

ที่น่าเป็นห่วงมากๆ น่าจะเป็นภาครัฐของหลายๆประเทศที่ยังไม่มีนโยบายอะไรที่เตรียมการไว้ล่วงหน้า หากรอให้ปัญหาเกิดขึ้นแล้วค่อยมาแก้ อาจไม่ทันแล้วก็ได้…….

https://www.weforum.org/agenda/2018/10/future-of-jobs-humans-skills-leena-nair/

https://www.inverse.com/article/49047-robots-and-automation-will-have-taken-over-52-percent-of-tasks-by-2025

https://www.weforum.org/agenda/2018/09/ways-to-win-as-a-worker-in-the-robot-age

https://www.weforum.org/reports/the-future-of-jobs-report-2018

 

Leave a Reply