เมื่อวันพฤหัสที่ 20-12-2018 กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯตั้งข้อหาคนจีนสองคน หาว่าเป็นสปายมาล้วงข้อมูลบริษัทเทคโนโลยีและหน่วยงานความมั่นคง และยังมีการกล่าวหาว่ารัฐบาลจีนในปักกิ่งมีส่วนพัวพันอยู่เบื้องหลัง
ทางการสหรัฐฯกล่าวหาว่า มีการขโมยข้อมูลจากบริษัทเทคโนโลยีอเมริกาไปแล้วไม่น้อยกว่า 45 แห่ง หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯก็โดนแฮกข้อมูลด้วย
ตั้งข้อหาว่าเป็นขบวนการระดับโลก ขโมยข้อมูลความลับทางเทคโนโลยีและทรัพย์สินทางปัญญา และข้อมูลส่วนตัวของทหารในกองทัพเรือสหรัฐมากกว่า 100,000 นายก็โดนแฮกด้วย
จู่ หัว และ ชาง ซีหลง คือสองคนจีนที่ถูกหมายจับโดย FBI กล่าวหาว่าเป็นแฮกเกอร์ที่มาล้วงข้อมูล
ส่วนทางประเทศจีนมีข่าวล่าสุดว่า มีการจับชาวแคนาดาคนที่สาม คราวนี้เป็นครูสาวที่ถูกกล่าวหาว่ามีการเข้ามาทำงานในจีนแบบผิดกฎหมายและต้องถูกลงโทษ
เรื่องนี้เริ่มต้นจากทางการแคนาดาจับลูกสาวผู้ก่อตั้งหัวเว่ยตามหมายเรียกของทางการสหรัฐฯ ตามมาด้วยการเอาคืนของจีนในการจับพลเมืองแคนาดา 3 ราย คือ อดีตนักการทูต นักธุรกิจ และครู
ข้อมูลตามรายงานข่าวแสดงให้เห็นถึงการกระทำผิดของพลเมืองแต่ละฝ่าย แต่ผู้คนส่วนใหญ่รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลของหลายสำนักข่าว ต่างตั้งข้อสังเกตว่า มันมีเรื่องของสงครามการค้าอยู่เบื้องหลัง
คนสหรัฐฯเดินทางไปจีน หรือคนจีนเดินทางไปสหรัฐฯ ตอนนี้ใครมีแผลหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องอ่อนไหว คงหนาวๆร้อนๆไปหมด
Justice Department accuses Chinese spies of hacking into dozens of US tech and industry giants
https://www.cnbc.com/2018/12/20/doj-china-national-security-law-enforcement-action.html
.