บิทคอยน์หรือสกุลเงินดิจิตอล ใช้บล็อกเชนซึ่งเป็นรูปแบบการเก็บข้อมูลแบบหนึ่งที่ไม่มีศูนย์กลาง แต่น่าเชื่อถือและโกงยาก
พอมีนักพัฒนาศึกษาระบบการทำงานของบิทคอยน์มากขึ้น ก็เริ่มมองเห็นวิธีการประยุกต์บล็อกเชนไปใช้สำหรับงานอื่น เช่น การเงิน การดูแลสุขภาพ การขนส่ง ธุรกิจบันเทิง ฯลฯ
รูปแบบการเก็บข้อมูลที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนมีลักษณะพิเศษ คือ ไม่จำเป็นต้องมีตัวกลางทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพ ทำงานได้แบบไม่ต้องรวมศูนย์ มีรายละเอียดของข้อมูลต่างๆครบถ้วน ข้อมูลมีความหน้าเชื่อถือเพราะสมาชิกในระบบมีข้อมูลชุดเดียวกันเก็บเอาไว้ การโกงทำได้ยากมากเพราะข้อมูลกระจายออกไปในวงกว้าง
ดาต้าเบสระบบเก่า ข้อมูลจะรวมศูนย์อยู่ในที่เดียว ผู้ควบคุมที่เป็นศูนย์กลางของระบบเป็นผู้กำหนดตรวจสอบยืนยันแต่เพียงผู้เดียว
ในทางตรงกันข้าม รูปแบบการเก็บข้อมูลแบบบล็อกเชน เป็นระบบไม่รวมศูนย์ สมาชิกในระบบช่วยกันรับผิดชอบและยืนยันความถูกต้องของข้อมูล
เคยมีข่าวแฮกเกอร์เข้าไปเจาะระบบของศูนย์ข้อมูลต่างๆอยู่บ่อยมาก แต่ตั้งแต่มีการใช้บล็อกเชนมา ยังไม่เคยมีใครแฮกระบบบล็อกเชนได้สำเร็จ เพราะเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ ข้อมูลมันกระจายไปทั่ว การแฮกสมาชิกทุกคนทำได้ยาก
งานที่ควรใช้บล็อกเชน คือ งานที่ต้องการความน่าเชื่อถือ งานที่ต้องการความโปร่งใส งานที่ปลอมแปลงแก้ไขไม่ได้
ดูเหมือนว่าการป้องกันหรือลดปัญหาคอรัปชั่นมันเหมาะเจาะกับเทคโนโลยีบล็อกเชนมากที่สุด
ในปัจจุบัน มีรัฐบาลของหลายประเทศกำลังศึกษาหรือเริ่มเอาเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้เพื่อแก้ปัญหาคอรัปชั่นแล้ว
รัฐบาลประเทศบราซิลกำลังใช้บล็อกเชนเข้ามาช่วยลดปัญหาคอรัปชั่น
ประเทศในลาตินอเมริกาเอาบล็อกเชนมาคอยตรวจสอบกิจกรรมของรัฐบาล
สวีเดนและจอร์เจียกำลังใช้ประโยชน์จากบล็อกเชนเพื่อบันทึกข้อมูลความเป็นเจ้าของที่ดิน ช่วยทำให้คอรัปชั่นลดลง
อินเดียกำลังวางแผนใช้บล็อกเชนเพื่อต่อสู้กับการคอรัปชั่น
จีนต้องการเอาบล็อกเชนมาใช้ตรวจสอบข้าราชการคอรัปชั่น เพราะเชื่อว่าระบบไม่รวมศูนย์ทำให้พวกฉ้อฉลปกปิดความผิดพรรคพวกตัวเองไม่ได้ หากมีการปรับแก้ในฐานข้อมูลของตัวเอง ข้อมูลที่ปลอมแปลงจะไม่สอดคล้องกับข้อมูลของสมาชิกในระบบ และจะถูกจับได้
งบประมาณที่เป็นเงินใช้จ่ายของภาครัฐ หากเอาเข้าระบบบล็อกเชน จะทำให้เกิดความโปร่งใสของการไหลเวียนของเงินทุกขั้นตอน สาธารณะชนสามารถเข้าไปตรวจสอบตามรอยเงินได้ รู้ว่ามีการใช้จ่ายไปเท่าไร เอาไปให้ใคร ใช้ทำอะไรบ้าง หากมีอะไรผิดปกติก็พบได้ทันที ถ้ามีการโกงกันเกิดขึ้น ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องจะไม่รับรองรายการที่น่าสงสัย
ในระบบของบล็อกเชน สามารถแสดงโครงการของรัฐที่กำลังทำว่าอยู่ที่ไหน และใช้เงินงบประมาณอย่างไร รู้ว่าเงินกำลังไหลไปไหน การจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐแต่ละโครงการใช้เงินเท่าไร จ่ายเงินให้ใครบ้าง มีอะไรที่ดูแล้วราคาแพงผิดปกติบ้าง ตรวจสอบย้อนหลังได้ทุกขั้นตอน
การเลือกตั้งหาตัวแทนของประชาชนเข้าไปบริหารประเทศ สามารถป้องกันการโกงคะแนนเสียงได้โดยใช้บล็อกเชน ทำให้การลงคะแนนมีความโปร่งใส ไม่มีคะแนนผี การนับคะแนนก็ทำได้อย่างรวดเร็ว
ไทยก็เป็นหนึ่งในประเทศที่มีปัญหาเรื่องคอรัปชั่นกันมาก ผลสำรวจความโปร่งใสที่ผ่านมาก็สอบตกทุกปี น่าจะนำเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ามาช่วยลดปัญหาคอรัปชั่นบ้าง
ไทยมีงบประมาณปีละมากกว่า 3 ล้านล้านบาท หากนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ มันคงช่วยทำให้งบประมาณของประเทศไทยมีความโปร่งใสและใช้เงินได้คุ้มค่ามากขึ้น!!!
https://hackernoon.com/blockchain-adoption-could-be-closer-than-we-think-e68bebaebca4
https://www.bbntimes.com/en/technology/reducing-corruption-with-blockchain