หัวเว่ยยืนยันว่าได้สร้างระบบปฏิบัติการของตัวเองไว้แล้ว มีทั้งของมือถือและคอมพิวเตอร์เพื่อเป็นแผนสำรองในกรณีที่จำเป็นต้องเลิกใช้แอนดรอยของกูเกิลหรือวินโดว์ของไมโครซอฟท์ หากจีนมีปัญหากับอเมริกาก็พร้อมนำมาใช้ทันที
ในปัจจุบัน หัวเว่ยเป็นบริษัทสมาร์ทโฟนใหญ่ที่สุดของจีนและเป็นอันดับสองของโลกรองจากซัมซุงของเกาหลีใต้
หัวเว่ยเริ่มสร้างระบบปฏิบัติการของตัวเองตั้งแต่ปี 2012 ซึ่งเป็นช่วงเวลาหลังจาก Huawei และ ZTE ของจีนโดนรัฐบาลอเมริกันสอบสวน
ในการแบนโดยสหรัฐฯคราวก่อน ซึ่งมีการห้ามไม่ให้สินค้าและบริการอเมริกันขายอะไรให้กับ ZTE ทำให้บริษัทเทคโนโลยีจีนต่างๆตื่นตัวและเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้น
ระบบปฏิบัติการมือถือทั้ง Android และ iOS ซึ่งนิยมใช้กันในวันนี้เป็นระบบของอเมริกัน และอาจมีการกีดกันเกิดขึ้นก็ได้ ทางหัวเว่ยแจ้งว่าระบบปฏิบัติการของตัวเองสร้างไว้เป็นแผนสำรองเท่านั้น และจะนำมาใช้ก็เมื่อมีความจำเป็นจริงๆเท่านั้น
บริษัทจีนหลายแห่งได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าที่เกิดขึ้นระหว่างจีนและอเมริกา
ในวันนี้หัวเว่ยโดนตั้งข้อหาหลายเรื่องจากสหรัฐอเมริกา โดนกล่าวหาว่าขโมยความลับทางการค้า แอบมาสอดส่องข้อมูลของคนอเมริกัน ละเมิดข้อตกลงการแซงชั่นกับประเทศอีร่าน
หัวเว่ยได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาของสหรัฐอเมริกา
ลูกสาวของผู้ก่อตั้งหัวเว่ยซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัท วันนี้ยังถูกควบคุมตัวอยู่ในแคนาดาจากการร้องขอให้จับกุมโดยอเมริกา
เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2019 หัวเว่ยได้ประกาศว่าได้ฟ้องรัฐบาลสหรัฐอเมริกาที่มีการสั่งแบนไม่ให้หน่วยงานของรัฐบาลอเมริกาใช้สินค้าของหัวเว่ย
ทางผู้บริหารหัวเว่ยได้กล่าวย้ำถึงเรื่องระบบปฏิบัติการที่สร้างเอาไว้แล้วนั้นว่า..
“ไม่ได้คาดว่าจะเอามาใช้ และด้วยความสัตย์จริง ไม่ต้องการเอามาใช้ด้วย เราต้องการสนับสนุนระบบปฏิบัติการหุ้นส่วนของเรา เรารักที่จะใช้มันและลูกค้ารักที่จะใช้มันเช่นกัน…. Android และ Windows ยังคงเป็นทางเลือกอันดับแรกของเราเสมอ”
แต่ก็ไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในอนาคต และหัวเว่ยของจีนก็มีแผนสำรองที่พร้อมหยิบขึ้นมาใช้ได้ทันที!!!