จินนี โรเมตตี นายใหญ่ไอบีเอ็ม ให้สัมภาษณ์ CNBC เมื่อวันที่ 3-04-2019 ว่า ในช่วง 5-10 ปีข้างหน้า AI จะเปลี่ยนโฉมหน้างานที่เป็นอยู่ในวันนี้ไป 100%
เราอยู่ในช่วงการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 และ ปัญญาประดิษฐ์ การวิเคราะห์ และระบบอัตโนมัติ กำลังเปลี่ยนแปลงงานทุกชนิดอย่างรุนแรง
IBM กำลังลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์ในการริเริ่มฝึกอบรมพนักงานในสิ่งใหม่ที่เรียกว่างาน “New Collar” เป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการพัฒนาแรงงานในอนาคต เพื่อปิดช่องว่างของทักษะในการทำงานของคนในประเทศอเมริกา
ในแวดวงอุตสาหกรรมเทคโนโลยีกำลังห่วงว่าระบบการศึกษาในโรงเรียนและมหาวิทยาลัย ไม่สามารถขับเคลื่อนได้เร็วพอสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น หลักสูตรการศึกษาปรับไม่ทันความก้าวหน้าด้าน Data Science และ Machine Learning
เมื่อสถาบันการศึกษาปรับตัวไม่ทัน ภาคอุตสาหกรรมเลยต้องดิ้นรนกันเอง ไม่อย่างนั้นก็จะติดขัดไม่มีคนมาทำงานด้าน พัฒนาซอฟท์แวร์ การวิเคราะห์ข้อมูล และวิศวกรรม
คำแนะนำจากนายใหญ่ไอบีเอ็ม เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนกระบวนทัศน์คราวนี้ บริษัทต่างๆต้องให้ความสำคัญกับ 3 สิ่ง คือ
- การฝึกอบรม
- การจ้างคนทำงานที่ไม่จำเป็นต้องจบปริญญา 4 ปี จากมหาวิทยาลัย
- ต้องคิดใหม่เพื่อดูว่าคนที่มาสมัครงานมีความเหมาะสมกับบทบาทของงานใหม่ได้อย่างไร
วิธีการทำงานต่างๆของโลกในยุคใหม่กำลังเปลี่ยนไป และ AI จะเข้ามามีบทบาทแทนที่งานเก่าที่มนุษย์เคยทำ และสามารถลดรายจ่ายได้อย่างมาก งานที่ใช้คนทำน้อยลงในวันนี้ ช่วยทำให้คนที่พร้อมทำงานใหม่ๆที่เหลืออยู่ได้อัตราจ้างงานที่สูงขึ้น
งานน่าเบื่อที่เป็นงานรูทีนที่มีวิธีการทำงานซ้ำๆไปค่อยเปลี่ยนแปลง หุ่นยนต์หรือ AI เข้ามาทำแทนที่คนได้ง่ายมาก ผู้คนได้หันไปทำงานอื่นๆที่มีความหมายมากขึ้น และได้เงินเดือนมากขึ้นด้วย
ถ้ามองแบบเผินๆ การเปลี่ยนแปลงในโลกแรงงานยุคนี้ดูน่ากลัวมาก งานแบบ Blue Collar ที่เน้นแรงงาน หรืองานแบบ White Collar ที่เป็นงานนั่งโต๊ะในสำนักงาน ต่างอยู่ในภาวะเสี่ยงที่จะตกงานพอๆกัน
งานแบบ New Collar ซึ่งเป็นศัพท์ใหม่ที่ฟังดูดี ตอนนี้ยังไม่มีภาพชัดเจนว่าเป็นอย่างไรบ้าง และยังไม่รู้ว่าจะเหลืองานให้ทำอยู่มากน้อยแค่ไหน???
.