เมื่อปีที่แล้วในปักกิ่งประเทศจีน มีการแข่งขันการวินิจฉัยโรคเนื้องอกในสมองและการทำนายการขยายตัวของเลือดหรือรอยฟกช้ำ
ผู้แข่งขันฝ่ายแรกเป็นทีมหมอชั้นยอดจากโรงพยาบาลต่างๆทั่วประเทศจีน 15 คน จากกรณีศึกษา 225 ข้อ รังสีแพทย์มือดีของจีนเหล่านี้วินิจฉัยได้ถูกต้อง 66% ใช้เวลา 30 นาที
ผู้แข่งขันฝ่ายหลังเป็น BioMind ที่พัฒนาโดย AI Research Centre for Neurological Disorders and Capital Medical University ในปักกิ่ง จากกรณีศึกษา 225 ข้อ AI วินิจฉัยได้ถูกต้อง 87% ใช้เวลา 15 นาที
การแข่งขัน 2 ยก ปรากฏว่า AI ชนะ 2 : 0
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีข่าวแบบนี้ นับวันไปก็จะได้เห็นบทพิสูจน์ที่ชัดเจนขึ้นว่า AI ทำงานได้ดีกว่ามนุษย์ในหลายแขนงสาขามากขึ้น
ถ้าใช้ผลการแข่งขันครั้งนี้เป็นบรรทัดฐาน นั่นหมายความว่า มีคนไข้ 34% ที่ได้รับการวินิจฉัยโรคจากหมอไม่ถูกต้อง เขาอาจโดนผ่าตัดหรือกินยาผิด เสียเงินค่ารักษาเพิ่มขึ้น ได้รับความเสี่ยงจากการผ่าตัด ได้รับผลข้างเคียงของยาโดยไม่จำเป็น ฯลฯ
AI จะยิ่งมีความถูกต้องแม่นยำขึ้นถ้ามีข้อมูลมากขึ้น ถ้าเอากรณีศึกษาของคนที่เป็นโรคเนื้องอกในสมองป้อนให้มันมากขึ้น ก็จะได้เห็นอัตราความถูกต้องเพิ่มมากขึ้น จากคะแนนที่เคยได้ 87% ในระยะยาวอาจกลายเป็นถูกต้อง 100%
ช่วงหลายปีจากนี้ บริษัทเทคโนโลยีทั้งเล็กและใหญ่ของโลกกำลังมองเห็นโอกาสจากปัญหาที่เกิดขึ้นในวงการดูแลสุขภาพ มีเม็ดเงินอยู่ในระบบมหาศาล ใครที่เข้ามาทำเรื่องนี้ก็จะรู้สึกถึงคุณค่าของตัวเองที่ได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ สรุปแล้วคนทำจะได้ทั้งเงินและกล่อง
มีหลายวงการโดนเทคโนโลยีดิสรัปไปแล้ว คงใกล้ถึงเวลาของวงการแพทย์บ้างแล้ว !!!
.
.