ช่วงหลายปีที่ผ่านมา บริษัทเทคโนโลยีเข้าไปดิสรัปป่วนหลายภาคธุรกิจมาแล้ว
ช่วงหลายปีจากนี้ต่อไป กำลังถึงคิวของวงการแพทย์หรือการดูแลสุขภาพที่กำลังเป็นเป้าหมายหลักแห่งใหม่ของยักษ์ใหญ่วงการเทคโนโลยี
AI ที่พัฒนามากขึ้นทำให้พลิกโฉมวงการดูแลสุขภาพได้ บริษัทเทคโนโลยีที่เข้ามาวงการนี้จะได้ทั้งเงินและกล่อง มีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงโลกให้ดีขึ้น
แอปเปิลเป็นอีกบริษัทหนึ่งที่กำลังให้ความสนใจอย่างจริงจังกับเทคโนโลยีวงการแพทย์ นอกจากการพัฒนาภายในองค์กรแล้ว สามารถไปทางลัดด้วยการซื้อสตาร์ทอัพใหม่ๆได้
ข่าวที่มีการเปิดเผยเกี่ยวกับการซื้อสตาร์ทอัพวงการดูแลสุขภาพของแอปเปิล คือ
ปี 2016 ซื้อ Gliimpse ซึ่งกำลังพัฒนาเทคโนโลยีเวชระเบียนรวมคนไข้ ซึ่งทำให้ข้อมูลคนไข้สามารถนำไปแบ่งปันตามความจำเป็นอย่างมีประสิทธิภาพ
ปี 2017 ซื้อ Beddit ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำเซนเซอร์ตรวจจับคนกำลังนอนหลับ
ปี 2018 ซื้อ Tueo Health บริษัทสตาร์ทอัพที่มีระบบที่ช่วยทำให้พ่อแม่สามารถตรวจสอบอาการโรคหอบหืดในเด็กขณะนอนหลับ ในปี 2017 มีข่าวว่าแอปเปิลร่วมลงทุนในบริษัทนี้ 1.1 ล้านดอลลาร์ แต่พอถึงช่วงปลายปี 2018 มีรายงานว่าแอปเปิลเป็นเจ้าของ Tueo Health แล้ว
Tueo Health กำลังพัฒนาโมบายแอปโดยทำงานร่วมกับเซนเซอร์ที่ตรวจสอบการหายใจเพื่อช่วยจัดการกับอาการหอบหืดในเด็ก แอปที่สร้างขึ้นจะส่งการเตือนให้กับพ่อแม่ถ้าเกิดปัญหาการหายใจของเด็กในตอนกลางคืน
ทิม คุก ซีอีโอแอปเปิลเคยให้สัมภาษณ์ให้ฟังถึงความทะเยอทะยานของบริษัทในเทคโนโลยีวงการดูแลสุขภาพว่า “ปี 2019 เป็นปีที่แอปเปิลจะมีส่วนร่วมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเพื่อมนุษยชาติ”
บริษัทยักษ์ใหญ่ เวลาจะทำอะไรมีช่องทางสะดวกมากกว่า ไม่ต้องพัฒนาทุกอย่างด้วยตัวเองก็ได้ ไปซื้อของที่พัฒนามาแล้วได้ เวลาซื้อทั้งบริษัท มันได้ทั้งตัวผลิตภัณฑ์และทีมงานมาพัฒนาต่อเนื่องได้
ตัวอย่างการซื้อบริษัทเทคโนโลยีวงการดูแลสุขภาพทั้ง 3 แห่งที่กล่าวถึงนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการซื้อบริษัทสตาร์ตอัพที่แอปเปิลมีการทำอยู่เป็นประจำทุกปี
แอปเปิลมีการซื้อสตาร์ทอัพแห่งใหม่ในแต่ละวงการ ทุก 2-3 สัปดาห์ต่อครั้ง ปีหนึ่งอาจซื้อบริษัทใหม่เข้ามามากถึง 20 แห่ง
แม้ว่ายุคนี้จะเชื่อกันว่า ปลาเร็วกินปลาช้า แต่ปลาที่ใหญ่จริงยังมีทางเลือกที่ดีกว่า สามารถต้อนปลาเร็วให้อยู่ในสังกัดของตัวเองได้……
https://www.cnbc.com/2019/05/24/apple-acquires-asthma-detection-start-up-tueo-health.html