นักวิจัยที่ห้องปฏิบัติการแห่งชาติลอเรนซ์บาร์กลีย์ของกระทรวงพลังงานสหรัฐ ได้พัฒนาอัลกอริทึม AI ที่สามารถฝึกอบรมให้มันเรียนรู้นอกพารามิเตอร์ได้
ด้วยการฝึก AI เพียงเล็กน้อย มันสามารถค้นพบความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่ซ่อนอยู่ และยังไม่เคยมีนักวิทยาศาสตร์ที่ไหนเคยวิจัยมาก่อน
AI สแกนบทความที่น่าเชื่อถือจำนวนมาก มีระบบวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างคำจากงานวิจัย แล้วสามารถสอนตัวมันเองให้เข้าใจเรื่องที่เกี่ยวข้องกันได้
ในการศึกษาครั้งนั้นเป็นเรื่องของ Materials Science โดยให้ AI ได้อ่านบทคัดย่อของบทความวิจัยด้านวัสดุศาสตร์ 3.3 ล้านชิ้น และมันสามารถเรียนรู้แนวคิดที่ซับซ้อนได้สำเร็จ
มันสามารถเข้าใจเรื่องตารางธาตุไปจนถึงความซับซ้อนของโครงสร้างผลึกของโลหะ
วิชาการทางด้านวัสดุศาสตร์บางเรื่องที่เป็นช่องว่างและไม่เคยมีการวิจัยมาก่อน AI สามารถค้นพบได้ด้วยตัวมันเอง
AI คาดการณ์ได้อย่างถูกต้องแม่นยำ ทำให้เกิดการค้นพบวัสดุเทอร์โมอิเล็กทริกตัวใหม่ สามารถเปลี่ยนรูปแบบระหว่างพลังงานไฟฟ้าและพลังงานความร้อน โดยผ่านวัสดุตัวกลางที่มีคุณสมบัติเป็น Thermoelectric
ถ้าถามว่าความก้าวหน้าของ AI ในครั้งนี้มีความสำคัญอย่างไร?
มันไม่ใช่เรื่องที่เอาไปใช้ในวิชาการทางด้านวัสดุศาสตร์เท่านั้น แต่มันสามารถนำแนวทางไปพัฒนาสำหรับงานในสาขาอื่นได้อีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานทางด้านวิทยาศาสตร์ซึ่งมีกฎเกณฑ์ค่อนข้างตายตัว แม้จะซับซ้อนอย่างไรก็ยังมีหลักให้ยึดถือได้
เราคงเคยได้ยินข่าวการพัฒนาของ AI ที่กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆมามากแล้ว เช่น สุดยอดนักเล่นเกมโก๊ะ สุดยอดนักเล่นโปกเกอร์ที่เอาชนะแชมป์โลกจากทั่วโลก ตรวจโรคมะเร็งได้แม่นยำกว่าหมอ เป็นนักขับรถที่มีปัญหาอุบัติเหตุน้อยกว่าคน ฯลฯ
วันนี้ AI กำลังจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่เป็นสุดยอดนักวิจัย
งานวิจัยชั่วชีวิตของนักวิทยาศาสตร์ที่เป็นมนุษย์คนหนึ่ง หากเปรียบเทียบกับการทำงานของ AI มันเทียบได้เท่ากับเศษเสี้ยวที่ AI สามารถทำได้ในวันเดียว
หนังสือที่คนหนึ่งคนเคยอ่านมาทั้งชีวิต เทียบไม่ได้กับหนังสือที่ AI สามารถอ่านได้ในไม่กี่นาที และมันไม่เคยลืมสิ่งที่ผ่านการเรียนรู้ของมันแล้ว สามารถวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ของเนื้อหาต่างๆ และสรุปออกมาเป็นความรู้ใหม่ๆด้วยตัวมันเอง
หากนำ AI ไปใช้ในงานวิจัยแต่ละสาขาอย่างจริงจัง ข้อมูลต่างๆที่มีอยู่บนโลกในสาขานั้นๆจะถูกนำมาใช้อย่างครบถ้วนเพื่อขับเคลื่อนทำให้เกิดความรู้ใหม่ๆตามมาอีกมาก
อีกไม่นานจะได้เห็นนวัตกรรมใหม่ๆเกิดขึ้นแบบก้าวกระโดด
นักวิทยาศาสตร์ยุคนี้จะมีเวลาไปค้นหา หรือทำงานวิจัยสิ่งที่สำคัญๆมากกว่าเพิ่มขึ้น
หรือต่อไปในอนาคต บทบาทสำคัญของการทำงานวิจัยอาจเป็นหน้าที่ของ AI!!!