เมื่อวันพุธที่ 8-08-2019 ได้มีโอกาสร่วมงานสัมมนา Delta Future Industry Summit ซึ่งจัดโดย บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
เนื้อหาในงานส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ที่ทางผู้จัดงานผลิตในประเทศไทยและบริษัทในเครือหลายประเทศ
ได้รับฟังข้อมูลจากผู้บริหาร เดลต้า แล้วรู้สึกทึ่งในศักยภาพการผลิตที่กำลังผลิตอยู่ในประเทศไทยอย่างมาก
คุณแจ็คกี้ ชาง รองประธาน บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) เป็นผู้นำเสนอหลักในงานนี้ พูดถึงเกี่ยวกับ โซลูชั่นสำหรับเมืองอัจฉริยะ การขับเคลื่อนของระบบไฟฟ้า พลังงานแสงอาทิตย์ ระบบอุตสาหกรรมอัตโนมัติ ไฟฟ้าสำหรับงานอุตสาหกรรม ดาต้าเซนเตอร์ ระบบระบายอากาศอัจฉริยะ โซลูชั่นการกักเก็บพลังงาน
ทุกเรื่องเป็นเมกะเทรนด์ของโลกในยุค 4.0 และ เดลต้า มีสินค้าที่สามารถตอบสนองความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโลก
เมื่อเข้าไปศึกษารายละเอียดบริษัท และเครือข่ายที่มีอยู่ในหลายประเทศ ทำให้เห็นภาพรวมของผู้ผลิตสินค้าไฮเทคแห่งนี้มากขึ้น
เดลต้า ในประเทศไทยดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2531 ดูรายชื่อผู้ถือหุ้นแล้วในตอนแรกคิดว่าเป็นบริษัทของสิงคโปร์ แต่พอค้นข้อมูลเชิงลึกมากขึ้นพบว่าเป็นทุนไต้หวัน
เดลต้า ประเทศไทยเป็นผู้ให้บริการชิ้นส่วนอุปกรณ์อีเลคโทรนิคส์ ที่ให้บริการโซลูชั่นส์การประหยัดพลังงานและนวัตกรรมที่มีการวิจัยพัฒนาทันสมัย ธุรกิจหลักที่ทำ คือ พาวเวอร์อีเล็กทรอนิกส์ ออโตเมชั่น และระบบโครงสร้างพื้นฐาน มีโรงงานอยู่ใน อินเดีย สโลวาเกีย และประเทศไทย
ที่ผ่านมาในอดีต เครือข่ายของ Delta มีฐานการผลิตและธุรกิจหลักอยู่ใน ไต้หวัน และจีน แต่พอเจอสงครามการค้าจีนอเมริกา ทำให้ต้องเตรียมหาลู่ทางป้องกันไว้ก่อน
Delta ไต้หวัน มีหุ้นใน Delta ประเทศไทยอยู่แล้ว แต่มีสัดส่วนไม่มาก พอมาเจอสงครามการค้าจึงขอเข้ามาเป็นเจ้าของในประเทศไทยมากขึ้น
วันที่ 22-02-2019 Delta ไต้หวัน เตรียมเงินมาเทคโอเวอร์ Delta ประเทศไทยประมาณเจ็ดหมื่นล้านบาท เสนอซื้อหุ้นในราคา 71 บาท ต่อหุ้น สรุปแล้ววันนี้ผู้ถือหุ้นใหญ่ที่แท้จริงมากกว่าครึ่งเป็นทุนจากไต้หวัน
ปัญหาสงครามการค้าจีนอเมริกา เป็นแรงผลักดันให้บริษัทข้ามชาติจำนวนมากที่เคยพึ่งพาจีนเป็นฐานการผลิตสำคัญหาทางลดความเสี่ยง หลายบริษัทย้ายฐานการผลิตไปประเทศอื่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเอเชีย
เดลต้าเป็นตัวอย่างหนึ่งที่ประเทศไทยได้รับผลบวกจากสงครามการค้า ทำให้มีทุนไหลเข้าไทยเพิ่มขึ้น การจ้างงานในส่วนนี้ก็น่าจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
มีหลายๆบริษัทเริ่มย้ายฐานการผลิตออกจากประเทศจีนแล้ว แต่ความเสี่ยงยังมีอยู่ ยังไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าสงครามการค้าคราวนี้จะมีบทสรุปอย่างไร
แต่ใครๆก็รู้ดีว่า ถ้าเอาไข่ทั้งหมดใส่ไว้ในตะกร้าใบเดียวที่อยู่ในประเทศจีน มันเสี่ยงเกินกว่าที่จะรับไหวแน่ๆ!!!
https://www.set.or.th/set/companyholder.do?symbol=DELTA&ssoPageId=6&language=th&country=TH
http://www.deltaww.com/ir/chairman.aspx?secID=4&pid=1&tid=0&hl=en-US
https://www.deltathailand.com/en/corporate-news
https://www.deltathailand.com/en/delta-overview