มาซาโยชิ ซัน เป็นคนญี่ปุ่นเชื้อสายเกาหลีและจีน วันนี้เป็นซีอีโอซอฟท์แบงก์ บริษัทที่ให้เงินทุนสตาร์ตอัพที่มีอนาคตทั่วโลก
เขาจัดเป็นเศรษฐีที่รวยอันดับ 1 หรือ 2 ของประเทศญี่ปุ่น มีสินทรัพย์ใกล้เคียงกับเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าดังยูนิโคล่
ก่อนหน้าที่โลกจะมีไอโฟนช่วงก่อนปี 2007 โทรศัพท์มือถือที่มีใช้กันอยู่ยังทำงานได้จำกัดมาก ไม่ค่อยต่างจากโทรศัพท์บ้าน
มาซาโยชิ ซัน คาดการณ์ว่า ถ้าจะมีใครซักคนสามารถทำโทรศัพท์มือถือดีๆได้ จะต้องเป็น สตีฟ จ็อบส์ ของ แอปเปิล
สตีฟ จ็อบส์ เปรียบได้กับ เลโอนาร์โด ดา วินชี เป็นศิลปินและนักเทคโนโลยีที่รวมอยู่ในคนคนเดียว เป็นทั้งนักออกแบบและวิศวกร
มาซาโยชิ ซัน บอกว่า อีก 500 ปีจากนี้ จะมีคนเปรียบเทียบความเป็นอัจฉริยะและศิลปินของ จ็อบส์ กับ ดา วินชี
ช่วงปี 2005 ก่อนมีโอโฟนตัวแรกออกมาประมาณ 2 ปี มาซาโยชิ ซัน เดินทางไปหา สตีฟ จ็อบส์ ในอเมริกา เขาเอาภาพวาดเล็กๆไปด้วย เป็นภาพของไอพอดที่มีความสามารถเป็นมือถือ เอาภาพไปให้ สตีฟ จ็อบส์ ดู
สตีฟ จ็อบส์ บอก มาซาโยชิ ซัน ว่า…..
“มาซ่า ไม่ต้องเอาของเล่นของคุณมาให้ดู ผมมีของผมแล้ว!!!”
มาซาโยชิ ซัน บอก สตีฟ จ็อบส์ ว่า….
“ถ้าผมเข้าไปในธุรกิจผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ ผมต้องการอาวุธดีๆ ใครจะเป็นคนที่คิดอาวุธที่ดีที่สุด มีเพียงคนเดียวในโลกเท่านั้น คือ สตีฟ จ็อบส์”
เขาอยากได้ผลิตภัณฑ์ใหม่ของแอปเปิลไปขายในญี่ปุ่น
สตีฟ จ็อบส์ บอกว่า….
“มาซ่า คุณบ้าแล้ว ผมไม่เคยบอกใครเรื่องนี้ แต่คุณมาหาผมเป็นคนแรกแล้วมาพูดเรื่องนี้กับผม ผมจะให้คุณ”
มาซาโยชิ ซัน ขอสิทธิเอ็กคลูซีฟเป็นผู้ขายแต่รายเดียวในญี่ปุ่นกับ สตีฟ จ็อบส์ ขอให้เขาเขียนเป็นสัญญาให้เขา
จ็อบส์ รับปากแต่ยังไม่ได้เซ็นต์อะไรให้ เพราะตอนนั้นทาง ซอฟท์แบงก์ ยังไม่ได้เป็นเจ้าของเครือข่ายมือถืออะไรเลย
ซัน บอก จ็อบส์ ว่า เมื่อได้คำมั่นสัญญาแล้ว เขาต้องทำได้แน่ๆ และหลังจากนั้น ซอฟท์แบงก์ ได้เข้าซื้อเครือข่ายมือถือ โวดาโฟน ญี่ปุ่น ด้วยเงิน 20,000 ล้านดอลลาร์
มาซาโยชิ ซัน เป็นนักเทคโนโลยีที่วันนี้ผันตัวมาเป็นผู้สนับสนุนทางด้านการเงินกับสตาร์ตอัพทั่วโลก เป็นคนที่มีเรื่องราวที่มีสีสันน่าสนใจมาก
ซอฟท์แบงก์ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของธุรกิจหลายแห่ง เช่น อาลีบาบา อูเบอร์ ลีฟท์ วีเวอร์ค ยาฮูแจแปน อาร์ม บอสตันไดนามิคส์ ฯลฯ
.
.