ภาพที่เห็นอยู่นี้เป็นช่วงที่นักศึกษากำลังเดินเข้าคณะเภสัชศาสตร์ในมหาวิทยาลัยนานจิง ประเทศจีน มีกล้องที่มี AI ระบบจดจำใบหน้า รู้ว่าใครกำลังเดินผ่านประตูเข้าไปบ้าง
เป็นโครงการนำร่องที่เริ่มทดลองกับ 2 ห้องเรียนของมหาลัย กล้องถ่ายภาพหน้าแบบอัตโนมัติ โดยไม่ต้องขอความร่วมมือจากนักศึกษา
จุดประสงค์เพื่อตรวจนับเวลาเรียน และดูพฤติกรรมในชั้นเรียนของนักศึกษา
ระบบทำนองเดียวกันนี้ มีใช้ในโรงเรียนระดับต่ำกว่าอุดมศึกษาหลายแห่งในประเทศจีนมาก่อน แต่คราวนี้เป็นครั้งแรกที่จะเริ่มใช้กันในระดับมหาวิทยาลัย
ภาควิชาเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนานจิง เพิ่งประกาศในเว็บไซต์เมื่อวันพฤหัสที่ 29-08-2019 ถือว่าเป็นหนึ่งในสถาบันการศึกษาระดับสูงในประเทศจีน ที่เริ่มนำระบบตรวจจับใบหน้ามาดูความประพฤติในการเรียนของนักศึกษา
ระบบใหม่ช่วยทำให้การตรวจนับเวลาเรียนมีประสิทธิภาพมากกว่าระบบเก่า ใช้ซอฟท์แวร์ระบบจดจำใบหน้าที่มีความเที่ยงตรง และตรวจสอบได้ทั่วถึง ดีกว่าใช้อาจารย์ในห้องตรวจสอบเอง
นอกจาก AI ตรวจจับหน้าบริเวณทางเข้าออกแล้ว ในชั้นเรียนมีกล้องที่ตรวจจับภาพนักศึกษาทุกคนที่อยู่ในห้องได้อย่างทั่วถึง
ใครอยู่ในห้องเรียนบ้าง?
ใครตั้งใจฟังเลคเชอร์?
ยกมือถามตอบในชั้นเรียนกี่ครั้ง?
ใครกำลังเล่นมือถือ?
ใครนอนหลับในห้องเรียน?
นักศึกษาที่ หนีเรียน ออกจากห้องเรียนก่อนเวลา ให้คนอื่นมาเรียนแทน หรือไม่ตั้งใจเรียน จะมีปัญหาโดนอาจารย์เล่นงาน
โครงการนี้ถูกวิจารณ์ในโลกออนไลน์จีนอย่างมาก มีคนบ่นว่าเป็นการรุกล้ำความเป็นส่วนตัว
บางคนให้ความเห็นว่า ถ้าเอาระบบนี้ไปใช้ในยุโรปหรืออเมริกา มหาลัยจะถูกฟ้อง และอาจถูกปิด
คนที่เห็นดีด้วยกับระบบใหม่บอกว่า อย่าเอาแต่บ่นเกี่ยวกับระบบ มันเป็นวิธีกระตุ้นให้เรียนมากขึ้น เป็นนักเรียนก็ต้องเรียน!
ทางมหาวิทยาลัยนานจิง จะศึกษาจากความเห็นของอาจารย์และผู้เกี่ยวข้อง ก่อนที่จะนำระบบใหม่นี้มาใช้สำหรับห้องเรียนทุกวิชา
คนที่เป็นนักศึกษาจำนวนมาก อาจไม่ค่อยชอบใจกับระบบนี้เท่าไหร่
แต่พ่อแม่ที่เป็นคนจ่ายเงินค่าเล่าเรียน คงเห็นดีด้วยกับระบบใหม่นี้อยู่ไม่น้อย!!!
.