ประเทศจีนใช้ระบบจดจำใบหน้า AI แทนบัตรโดยสารรถไฟซับเวย์ แค่โชว์หน้าให้เห็นหน้าทางเข้า ระบบสแกนหน้าก็รู้ว่าเป็นใคร และทำการตัดเงินค่าโดยสารของแต่ละคนได้ทันที
เทคโนโลยี Facial Recognition เริ่มทดลองใช้หรือนำมาใช้สำหรับรถไฟใต้ดินในหลายเมืองใหญ่แล้ว เช่น เซินเจิ้น ฟูเจี้ยน จี่หนาน กวางเจา เซียงไฮ้ ชิงเต่า นานจิง
ในอนาคต จีนมีแผนจะใช้ระบบจดจำใบหน้าสำหรับการจ่ายค่าโดยสารรถไฟทั่วประเทศ
เซินเจิ้น เมืองไฮเทคของจีนเพิ่งเริ่มนำระบบนี้มาใช้ โดยมี Tencent ยักษ์เทคจีนเป็นผู้วางระบบเทคโนโลยีจดจำใบหน้าให้ Metro วันนี้ยังจำกัดการใช้งานอยู่เพียง 18 สถานีของไลน์ 11
สำหรับคนที่มีอายุเกิน 60 ปี สามารถไปลงทะเบียนกับระบบเพื่อใช้บริการรถไฟใต้ดิน เซินเจิ้น ฟรีในบางสถานีได้
ระบบการจ่ายเงินโดยใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าคน กำลังจะกลายเป็นเรื่องปกติของระบบการจ่ายเงินหลายอย่างในประเทศจีน มันกำลังมาแทนที่การจ่ายเงินด้วยการใช้มือถือสแกนคิวอาร์โคดที่ใช้กันมานาน
AI Facial Recognition ในประเทศจีน กำลังเชื่อมต่อระบบต่างๆเข้ามารวมศูนย์กัน กลายเป็นเทคโนโลยีที่มีใช้อยู่ในชีวิตประจำวันทั่วไป มันจะทำให้ Social Credit System ที่เหมือนเป็นระบบคุมความประพฤติของคนจีนทุกคนในประเทศมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ข้อมูลที่มีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ระบบทำงานได้ดีขึ้นต่อเนื่อง มีผู้ร้ายหลายคนที่เคยหนีรอดคดีมานาน แต่ถูกจับได้เพราะไปปรากฎตัวอยู่ในที่ชุมชน และถูก AI ตรวจเจอ ทำให้ตำรวจตามจับตัวได้
มีข่าวว่าในเดือนตุลาคม 2019 ประเทศอินเดียจะประกาศการใช้ระบบศูนย์กลางเพื่อเก็บข้อมูลใบหน้าของประชาชนอินเดียทั้งประเทศ จะติดตั้งกล้องทั่วประเทศอินเดียเหมือนประเทศจีน
ข้อมูลทุกอย่าง เช่น ลายนิ้วมือ หนังสือเดินทาง ใบหน้า จะถูกเชื่อมต่อเข้าอยู่ในระบบเดียวกัน ต่อไปจะระบุตัวตนของ อาชญากร คนสูญหาย หรือศพคนตาย ในอินเดียได้หมด
มองในแง่ ความสงบสุข ความสะดวกสบาย ความปลอดภัย AIที่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของมนุษย์ในปัจจุบันดูเหมือนเป็นเรื่องดีและเป็นบวกมาก
แต่ถ้าผู้ควบคุมข้อมูล มีเจตนาไม่บริสุทธิ์ และเอาเทคโนโลยีไปใช้ในด้านลบ หรือเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว มันก็เป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก!!!