ความเครียด นอนน้อย ไม่ดูแลสุขภาพ ทำให้คนอายุน้อยมีปัญหาเรื่องผมร่วง ตลาดปลูกถ่ายผมกำลังเติบโตทั่วโลก หุ่นยนต์ AI ช่วยทำให้งานหมอง่ายขึ้น

วิธีการปลูกถ่ายผมสำหรับคนผมบางหรือหัวล้านที่นิยมและใช้กันมากทั่วโลกในปัจจุบัน คือ Follicular Unit Extraction หรือ FUE ในประเทศไทยก็มีบริการแบบนี้หลายแห่ง

มีหลักการง่ายๆ โดยการดึงผมจากบริเวณที่ผมยังอยู่ในสภาพดี ย้ายไปปลูกถ่ายในบริเวณที่ไม่มีผมหรือมีน้อย

หมอต้องดึงผมทีละกอแล้วไปตรวจสภาพผมทีดึงออกมาว่าแข็งแรงพอที่จะไปปลูกถ่ายในบริเวณอื่นหรือไม่

ผมที่มีสภาพดีจะถูกนำไปปลูกถ่ายแบบทีละกอในบริเวณที่กำหนดเอาไว้

หน่วยที่ใช้เรียกผมที่ดึงออกมาและปลูกถ่ายใหม่เรียกว่า กราฟ จะต้องปลูกถ่ายมากน้อยแค่ไหนสำหรับแต่ละคนอาจไม่เท่ากัน เช่น 1,500 กราฟ 2,000 กราฟ 3,000 กราฟ เปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายขึ้น คือ 1 กราฟเท่ากับ 1 กอ แต่ละกออาจมีผมมากกว่า 1 เส้น

การปลูกถ่ายผมแบบ FUE มีการทำมาหลายปีแล้ว แต่ที่ผ่านมาเป็นขบวนการทำงานที่ใช้เวลานานมาก ต้องทำการดึงผมทีละกอ ดึง 60 ครั้ง ใช้เวลา 30 นาที สรุปแล้วการปลูกถ่ายผมแต่ละครั้งต้องใช้เวลานาน 8-12 ชั่วโมง บางรายต้องไปปลูกถ่ายมากกว่า 1 ครั้ง

หมอหรือผู้ช่วยที่ทำการปลูกถ่ายผม ตาต้องเพ่งมองตำแหน่งและมือต้องทำงานควบคู่ไปด้วยตลอดเวลา มีความเหนื่อยล้าในการทำงานมาก ต้องมีคนสับเปลี่ยนช่วยทำงานกันหลายคน และมีโอกาสเกิดความผิดพลาดในการทำงานจากมนุษย์

ความนิยมการปลูกถ่ายผมแบบ FUE ที่ได้ผลดี ทำให้มีการสร้างหุ่นยนต์ AI เพื่อมาทำงานนี้โดยเฉพาะ มีชื่อว่า ARTAS ROBOTIC HAIR RESTORATION เป็นผู้ช่วยหมอที่ทำให้งานต่างๆมีความถูกต้องแม่นยำขึ้น และกินเวลาน้อยลง

ARTAS ที่มี AI จะเริ่มทำงานด้วยการค้นหาว่าผมที่แข็งแรงอยู่ในสภาพดีพอที่จะไปปลูกถ่ายที่อื่นได้ของคนไข้ อยู่บริเวณไหนบ้าง และทำการดึงออกมาแบบกระจายพื้นที่ เพื่อไม่ทำให้พื้นที่ซึ่งยังมีผมอยู่ถูกดึงออกไปมากเกินไป

AI ของหุ่นยนต์ ARTAS ช่วยออกแบบหาตำแหน่งที่จะเอาผมไปปลูกถ่ายไว้บริเวณไหนบ้าง เพื่อให้ผลออกมาดูดี และผมที่ปลูกถ่ายเข้าไปยังอยู่ในสภาพแข็งแรงและเติบโตได้ หลังจากนั้นหุ่นยนต์จะทำการปลูกถ่ายผมให้ในบริเวณที่มีผมบาง

หลังการปลูกถ่ายไปแล้ว 6 เดือน จะเห็นผลชัดเจน ผมที่มีการปลูกถ่ายจะยาวออกมาเหมือนผมปกติที่ยาวออกมาในบริเวณอื่น

ขบวนการทำงานแบบเก่าของหมอในการปลูกถ่ายผมแต่ละครั้งที่กินเวลาทั้งวัน เมื่อใช้หุ่นยนต์ ARTAS อาจใช้เวลาเหลือเพียงไม่กี่ชั่วโมง มันเป็นผู้ช่วยหมอให้ทำงานง่ายขึ้นมาก

คนผมบาง หัวล้าน ในอดีตจะเกิดกับคนที่มีอายุมากเท่านั้น แต่ในยุคนี้มีคนที่อายุต่ำกว่า 40 ปี มีปัญหานี้กันมาก

ความเครียด นอนน้อย สูบบุหรี่ กินเหล้า หรือการใช้ชีวิตที่ไม่ดูแลสุขภาพ อาจเป็นสาเหตุหลักทำให้ผมร่วงไปมากก่อนเวลาอันควร

ในปี 2018 มหาวิทยาลัยซิงหัวในปักกิ่ง ทำการสำรวจนักศึกษา 4,000 คน พบว่า 60% มีประสบการณ์ปัญหาเรื่องผมร่วง

ผู้ที่ซื้อผลิตภัณฑ์ป้องกันผมร่วงจากอีคอมเมิร์ซของอาลีบาบาในปี 2018 พบว่า เป็นคนที่เกิดช่วงปี 1980S = 38.5%, เป็นคนที่เกิดช่วงปี 1990S = 36.1% หมายความว่ามีมากกว่า 7 ใน 10 ของผู้ซื้อผลิตภัณฑ์ป้องกันผมร่วง เป็นคนที่มีอายุต่ำกว่า 40 ปี

ข้อมูลจากอีคอมเมิร์ซของอาลีบาบาพบว่า เกือบ 40% ของลูกค้าที่มาซื้อผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการป้องกันผมร่วง เป็นคนที่เกิดหลังจากปี 1980

ผลการวิจัยที่เผยแพร่โดย Journal of Plastic and Reconstructive Surgery มีบทสรุปว่า คนที่มีปัญหาเรื่องผมร่วงทั่วโลกเป็นผู้ชาย 60% และเป็นผู้หญิง 50%

ในประเทศไทย ยังไม่มีข่าวว่าคลินิกหรือโรงพยาบาลไหน เอาหุ่นยนต์ AI ของ ARTAS มาใช้บ้าง แต่มีบางแห่งในไทยบอกว่ามีเครื่องมืออย่างอื่นที่ใช้เทคนิคเดียวกับ ARTAS

ค่าใช้จ่ายในการปลูกถ่ายผมในประเทศไทย คิดกันเป็นกราฟ หรือประมาณ 50 บาทต่อกราฟ หรืออาจทำกันแบบเหมาจ่าย สรุปแล้วต้องใช้เงินหลายหมื่นหรือเป็นหลักแสนบาท

ในประเทศจีนและฮ่องกง มีคลินิกและโรงพยาบาลหลายแห่งที่เอาหุ่นยนต์ ARTAS มาใช้แล้ว ปลูกถ่ายผม 2,200 กราฟ หน่วยละ 16 หยวน คิดตามอัตราแลกเปลี่ยนวันนี้จะอยู่ที่กอละประมาณ 70 บาท รวมแล้วมีค่าใช้จ่ายประมาณ 154,000 บาท

มีการประเมินจากนักวิเคราะห์ว่า ภายในปี 2024 ตลาดปลูกผมทั่วโลกจะมีขนาดใหญ่มากกว่า 24,800 ล้านดอลลาร์ และตลาดมีความต้องการที่เติบโตมากเป็นพิเศษในเอเชียแปซิฟิก

ถ้าตลาดมีแนวโน้มเติบโตมากขนาดนี้ อีกไม่นานประเทศไทยต้องมีหุ่นยนต์ AI ของ ARTAS มาใช้บ้างแน่!!!

https://artas.com/

https://www.scmp.com/lifestyle/health-wellness/article/3030927/millennial-chinese-men-going-bald-younger-getting-hair

 

Leave a Reply