ช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ มีนักวิเคราะห์หลายสำนักคาดการณ์อนาคตว่าจะเป็นยุคของ Internet of Things แล้วก็ไปไกลถึง Internet of Everything
ฟังดูดี แต่ที่ผ่านมาอาจนึกภาพไม่ค่อยออก มาถึงวันนี้เริ่มมองเห็นภาพแล้ว มีตัวอย่างสินค้าที่ทำให้คนเห็นคุณประโยชน์มากขึ้นอย่างชัดเจน
ผลการสำรวจของ Gartner บอกว่า ผู้บริโภคจำนวนมากมีแผนจะใช้เงินส่วนใหญ่ไปกับ Smartwatch และ Smart Clothing
ปี 2019 จะมีประชาชนทั่วโลกใช้เงินไปกับอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะมากถึง 41,000 ล้านดอลลาร์ และปี 2020 จะมียอดสูงเพิ่มขึ้นเป็น 52,000 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 1.6 ล้านล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 27%
เทคโนโลยีอุปกรณ์สวมใส่เป็นส่วนหนึ่งของสินค้าที่จัดเป็น IoT ที่มีการคาดหมายมานานตั้งแต่โลกมีการใช้อินเตอร์เน็ตว่าต่อไปในอนาคตอะไรอะไรก็อินเตอร์เน็ตหมด มันเริ่มเป็นจริงในวันนี้แล้ว และอีก 1-2 ปีจากนี้เมื่อมีการใช้ 5G กันอย่างกว้างขวาง จะยิ่งมีสินค้า IoT หรือ Wearable ออกมาให้เห็นอีกมาก
เสื้อผ้าอัจฉริยะที่มีคนบอกว่าจะซื้อกันมาก มีคุณสมบัติพิเศษที่แตกต่างจากเสื้อผ้าธรรมดาเช่น เสื้อผ้าที่มีระบบปรับอุณหภูมิ อุปกรณ์สวมใส่ช่วยการทำงานของร่างกายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ฯลฯ
หูฟังไร้สาย ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่ม Wearable เหมือนกัน คาดหมายว่าในปี 2020 จะมียอดขายมากถึง 70 ล้านชิ้น สมาร์ตโฟนบางรุ่นของบางแบรนด์เริ่มไม่มีช่องเสียบหูฟังแบบมีสายแล้ว ใช้ได้แต่ไร้สายอย่างเดียว
Smartwatch ถือว่าเป็นตัวนำตลาดที่ทำให้อุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะมีการเติบโตมากที่สุด มีการคาดหมายว่าปี 2020 จะมียอดขายมากถึง 86 ล้านหน่วย
Smartwatch นอกจากใช้ดูเวลา ยังมีคุณสมบัติพิเศษที่แตกต่างกันไปแต่ละรุ่นแต่ละแบรนด์ ตัวอย่างของประโยชน์ที่ทำได้ เช่น
-ตรวจดูการเต้นของหัวใจ
-ตรวจดูความดัน
-ตรวจสอบระยะทางการเดิน การวิ่งออกกำลังการ
-Navigator ตอนขับรถ หรือเดิน
-สามารถเชื่อมต่อกับมือถือ แม้ว่าจะอยู่ในรัศมีที่ไกลออกไป
-ใช้เสียงในการทำการค้นหาต่างๆ
-เตือนเรื่องสภาพอากาศ ข่าวสาร หรืออื่นๆ
-เชื่อมต่อแอป อ่านหนังสือ ฟังเพลง หรือซื้อของ
-ตอบข้อความหรืออีเมล์ได้
Apple Watch และ Sumsung Galaxy Watch จัดเป็นกลุ่มสินค้าพรีเมียมที่นำตลาด และราคาก็พรีเมียมตามไปด้วย แต่สำหรับใครที่มีงบน้อยลงมาหน่อยก็สามารถใช้สินค้าแบรนด์ดังของจีนอย่าง Xiaomi หรือ Huawei
สำหรับคนที่ไม่ยึดติดแบรนด์ดัง จะเลือกใช้แบรนด์ที่ไม่มีชื่อเสียงจากประเทศจีนก็ได้ ราคาจะลดต่ำลงมาอีกมาก
โดยภาพรวมแล้ว ระหว่างปี 2020-2021 ราคานาฬิกาข้อมืออัจฉริยะจะลดต่ำลงมาประมาณ 4.5%
สตาร์ทอัพ และบริษัทยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีหลายแห่งกำลังพัฒนาอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบดูแลสุขภาพของผู้สวมใส่
สินค้าใหม่ๆเหล่านี้ มันสามารถช่วยทำให้คุณภาพชีวิตของผู้คนดีขึ้นได้จริงๆ ใครมีงบมากก็เลือกใช้สินค้าแบรนด์ดังที่มีชื่อเสียง แต่ถ้างบน้อยลงมาก็ยังมีแบรนด์ไม่ดังที่มีคุณภาพไม่ต่างกันมากที่หาซื้อกันได้เช่นกัน…..
https://www.cnbc.com/2019/10/30/spending-on-wearables-predicted-to-hit-52-billion-next-year.html