สมาร์ตโฟนที่เกิดขึ้นครั้งแรกในโลกในปี 2007 วันนี้ถึงจุดอิ่มตัวที่ช่องทางการพัฒนาเริ่มจะตันแล้ว
มีการคาดการณ์ว่า ในอนาคต Smartphone จะถูกแทนที่ด้วย Smart Glasses และบริษัทยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีของอเมริกาได้เตรียมตัวพัฒนาอุปกรณ์ไว้ล่วงหน้าแล้ว
แว่นตาอัจฉริยะที่มีอยู่ในวันนี้ ส่วนใหญ่มีขนาดใหญ่เกินไป ราคาสูงมาก คุณสมบัติยังมีจำกัด เอามาใช้ในชีวิตประจำวันทั่วไปได้ไม่ค่อยสะดวก
แต่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่า Smart Glasses เป็นเทรนด์ใหม่ของเทคโนโลยีที่จะได้เห็นคนทั่วโลกใส่ออกไปทุกที่ในอนาคต
Big Tech ที่ได้สร้าง Smart Glasses หรืออยู่ระหว่างการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เช่น Microsoft, Amazon, Google, Snap, Facebook, Apple, Magic Leap
ในอนาคต เราคงไม่ต้องเอามือถือออกจากกระเป๋า แต่สามารถสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้คนด้วยการมองผ่านแว่นตาอัจฉริยะ มีทั้งไมค์ และหูฟัง ที่พร้อมใช้ควบคู่ไปพร้อมๆกัน
การแข่งขันของบริษัทเทคทั้งหลายที่พยายามทำในวันนี้ คือ ทำให้ทุกคนยอมใช้งานมันตลอดเวลา!!!
มีการตั้งความหวังไว้สูงว่า วันหนึ่ง Smart Glasses จะเข้ามาแทนที่จอภาพทุกรูปแบบในชีวิตประจำวันของมนุษย์ ไม่ต้องดูจอไหนอีกแล้ว แค่แว่นตาก็แทนที่ได้ทุกจอ
แต่อาจต้องใช้เวลาอีกหลายปี กว่าเทคโนโลยีจะพัฒนาถึงจุดที่เป็นไปได้ หรือมีราคาที่คนทั่วไปสามารถซื้อหาได้จริงๆ
ผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Smart Glasses ที่บริเทคโนโลยีแต่ละแห่งมี หรือกำลังพัฒนา เช่น
Microsoft กำลังสร้าง Augmented Reality มี HoloLens 2 ซึ่งเป็น Headset
กองทัพสหรัฐฯมีเวอร์ชั่นพิเศษที่ทำให้ทหารในสนามรบมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถใช้ HoloLens ในการฝึกแบบเสมือนจริงได้
ส่วน HoloLens 2 ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อสัปดาห์ก่อน มีโปรแกรมที่ช่วยทำให้ผู้สวมใส่สามารถทำงานได้เหมือนมีคอมพิวเตอร์อยู่ข้างหน้า อยู่ที่ไหนก็ทำงานได้ เห็นภาพเหมือนดูจอภาพใหญ่ๆที่ชัดเจน
HoloLens 2 มีขนาดใหญ่มาก ราคาสูงถึง 3,500 ดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทยมากกว่าหนึ่งแสนบาท ยังแพงเกินไปสำหรับประชาชนทั่วไป แต่ในอนาคตเมื่อมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมากขึ้น อุปกรณ์นี้จะมีขนาดเล็กลง และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
Snap วันนี้มีแว่นตาอัจฉริยะ Spectacle 3 เพิ่งออกวางขายสัปดาห์นี้ในราคา 380 ดอลลาร์ หรือประมาณ 11,590 บาท ผู้ใช้งานสามารถถ่ายภาพหรือวิดีโอรอบๆตัว และหลังจากนั้นสามารถเพิ่ม Augmented Reality เข้าไปผ่านทางแอปของ Snapchat
Google มี Google Glass ซึ่งสามารถแสดงข้อมูลต่างๆผ่านทางแว่นตา ใช้ควบคู่กับมือถือแอนดรอยด์ได้ วันนี้ยังเน้นเป็นผลิตภัณฑ์ที่เอาไปใช้สำหรับธุรกิจ สามารถรองรับแอป Augmented Reality
ใครใส่แว่นตาอัจฉริยะกูเกิล เหมือนมี Google Maps คอยนำทางให้อยู่ตลอดเวลา ชี้ให้เห็นว่าจะเดินไปทางไหน ต้องเลี้ยวหรือหยุดเวลาใด
Magic Leap ออก Headset ตัวแรกในเดือนสิงหาคม 2018 ใช้เล่นเกมส์ได้ มี 3D Animation มีจอภาพวิดีโอเสมือนจริง ใช้ดูทีวี ทำงานกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์ โดยที่สามารถเห็นโลกรอบข้างไปพร้อมๆกัน
คุณสมบัติของ Magic Leap และ HoloLens มีความใกล้เคียงกัน และราคาก็แพงเหมือนกันด้วย มีราคาเริ่มต้นที่ 2,295 ดอลลาร์ หรือประมาณ 67,000 บาท
Apple มี Headset ที่ข่าวรายงานว่าจะเปิดตัวในปี 2022 แต่ก็เป็นไปตามสไตล์ของแอปเปิลที่ไม่ค่อยมีอะไรเปิดเผยล่วงหน้า อยากให้คนเซอร์ไพรซ์ตื่นตาตื่นใจเวลาได้เห็นผลิตภัณฑ์ใหม่
Facebook มีกลยุทธ์ที่ดูเหมือนจะแตกต่างจากคู่แข่งรายอื่นๆ ผู้ที่ใช้ Oculus Quest VR จะเข้าไปอยู่ในโลกเสมือนจริงข้างใน เท่ากับการออกไปจากโลกจริง ผู้สวมใส่ไม่เห็นอะไรรอบข้าง
แต่มีข่าวว่า Facebook จับมือกับ Ray-Ban ร่วมกันพัฒนา Augmented Reality Glasses ให้คนทั่วไปใส่ได้ ตอนนี้ให้ชื่อว่า Orion มีแผนจะเปิดตัวช่วงปี 2023 – 2025 ทำหน้าที่ได้เหมือนสมาร์ตโฟน แล้วยังสามารถสตรีมส่งต่อวิดีโอไปมากับผู้อื่นได้ด้วย
วันนี้ Facebook มีโจทย์ใหญ่ที่จะทำให้แว่นตาอัจฉริยะมีขนาดเล็กลง ใช้งานง่าย ทำให้มันเป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานกับแอปหรือแพลตฟอร์มสำคัญต่างๆของเฟซบุ๊กได้ คือ Facebook Messenger, WhatsApp, Facebook ต่อไปสามารถทำเป็นวิดีโอแชทข้ามแพลตฟอร์มได้
ฐานผู้ใช้งาน Facebook ที่ใช้เป็นประจำในแต่ละเดือนมากถึง 2,450 ล้านคน จะช่วยทำให้ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆของเฟซบุ๊กมีโอกาสได้รับการยอมรับง่ายขึ้น
Amazon ไม่มีการเปิดเผยอะไรมากนักเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ Augmented Reality Glasses แต่เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีการประกาศเปิดตัว Echo Frames แว่นตาอัจฉริยะที่ดูเหมือนเป็นแว่นธรรมดาที่คนทั่วไปสามารถใส่ออกไปข้องนอกได้ แต่มีส่วนควบที่เป็นลำโพงอัจฉริยะ Alexa อยู่กับแว่นตา
Echo Frames ทำงานได้เหมือน Alexa สามารถคุยหรือสั่งงานให้มันทำอะไรได้ตลอดเวลา แต่แทนที่จะมีแค่เสียง คราวนี้มีแว่นตาที่มีข้อมูลแสดงเป็นจอภาพให้ดูด้วย
ต่อไปคงได้เห็นบริการอีกหลายอย่างของ Amazon ที่สามารถใช้ควบคู่กับแว่นตาอัจฉริยะได้ เช่น Prime Video ไว้ดูหนังหรือรายการทีวี หรืออาจสั่งซื้อของได้โดยไม่ต้องยกมือถือหรือกดปุ่มอะไร
แม้ว่าการพัฒนาของแว่นตาอัจฉริยะของทุกๆค่ายยังไม่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานทั่วไปในปัจจุบัน แต่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อตรงกันว่า…
“Smart Glasses คือ อนาคต”
“Smartphone กำลังจะกลายเป็นอดีต….”
.