Operation Cloud Sword ตามจับโจรจีน ปฏิบัติการลงดาบเหนือเมฆเริ่มเห็นผล หนีคดีมา 20 ปี ยังถูกตามจับได้ในยุคนี้ เทคโนโลยีทำให้คนชั่วในสังคมน้อยลง

วันที่ 13-06-2019 ประเทศจีนมีโครงการใหม่ชื่อว่า Operation Cloud Sword คงพอแปลเป็นไทยได้ว่า “ปฏิบัติการลงดาบแบบเหนือเมฆ”

จุดประสงค์เพื่อเอาไว้ จับพวกฉ้อโกง จับผู้ร้ายหนีคดี และป้องกันการกระทำความผิดในสังคมจีน

แนวทางปฏิบัติการลงดาบแบบเหนือเมฆ ใช้เทคโนโลยียุคใหม่เป็นเครื่องมือในการไล่ล่าผู้ร้าย เช่น

-การตรวจ DNA

-Big Data

-ใช้ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง การวิจัย การวิเคราะห์

-ใช้ความร่วมมือกับหลายภาคส่วน กระจายข้อมูลในวงกว้าง

ข้อมูลมีการเชื่อมต่อกับบริษัทเทคยักษ์ใหญ่จีน ทั้งอาลีบาบาและเทนเซ็นต์ ซึ่งคนจีนเกือบทุกคนต้องทำธุรกรรมทางด้านการเงินผ่านแพล็ตฟอร์มนี้

ประเทศจีนยังมีกล้องอีกหลายร้อยล้านตัวไว้จับตาดูความเคลื่อนไหวของคนจีนทั่วประเทศ มีโครงการ Social Credit System ที่เป็นระบบคุมความประพฤติคนจีน

ข้อมูลจากทุกภาคส่วนถูกนำมาเชื่อมต่อวิเคราะห์ร่วมกัน เพื่อตามหาเบาะแสผู้ร้ายที่หนีคดี โดยมีการพุ่งเป้าเฉพาะเจาะจงไปยังผู้ต้องสงสัยแต่ละรายโดยตรง

พอโครงการ Operation Cloud Sword เริ่มลงมือใช้ ผ่านไปเดือนเดียว จับผู้ร้ายได้มากถึง 57,106 ราย มีประสิทธิภาพในการตามจับผู้ร้ายเพิ่มขึ้น 32% ในจำนวนนี้มีผู้ร้ายมากถึง 7,266 รายที่เป็นพวกที่ก่ออาชญากรรมร้ายแรง

ผู้ร้ายที่หนีคดีมานาน โดนปฏิบัติการลงดาบแบบเหนือเมฆ ตามจับกลับมาลงโทษได้มากถึง 16,686 ราย

ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่า นับถึงปัจจุบันตามจับผู้ร้ายได้เพิ่มขึ้นอีกเท่าไร แต่ถึงสิ้นปี 2019 ตัวเลขผู้ร้ายจีนที่โดนตามจับได้คงมีนับแสนราย

ต้นเดือนธันวาคม 2019 มีข่าวดังจากประเทศจีนรายงานว่า Operation Cloud Sword สามารถตามจับผู้ร้ายที่เป็นฆาตกรต่อเนื่องที่หนีคดีมาตั้งแต่ปี 1999

หนีคดีมาได้นาย 20 ปี เพิ่งมาโดนรวบตัวในยุคนี้

หลาว หลงจ้าว เป็นอดีตครูชั้นประถมที่มีส่วนร่วมกับการฆาตกรรม 7 ราย โดยในจำนวนนี้มีเด็กหญิงคนหนึ่งที่มีอายุเพียง 3 ขวบ

หลาว หลงจ้าว หนีไปอยู่ต่างเมืองและใช้ชื่อปลอมว่า “เชอรี่” แต่เพิ่งถูกจับได้ขณะที่เธอทำงานเป็นพนักงานขายนาฬิกาอยู่ในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง

ทางการจีนมีการจัดอันดับ Class A ของ 50 ผู้ร้ายที่เป็นที่ต้องการตัวมากที่สุด หลาว หลงจ้าว น่าจะเป็น 1 ใน 50 ของรายชื่อนี้

ฟา ซือยิ้ง เพื่อนชายของ หลาว หลงจ้าว ถูกจับในปี 1999 และรับสารภาพเรื่องการลักพาตัวและฆ่าเหยื่อหลายราย ตอนโดนจับได้โกหกตำรวจ ไม่ซัดทอดใคร และทำให้เพื่อนสาว หลาว หลงจ้าว มีเวลาหนีตำรวจได้ทัน ส่วนตัว ฟา ซือยิ้ง ถูกตัดสินประหารชีวิตในปี 1999

ตำรวจไม่ยอมเปิดเผยว่าตามจับ หลาว หลงจ้าว มาได้อย่างไร แต่แจ้งว่าเป็นความสำเร็จที่ได้มาจาก “ปฏิบัติการลงดาบแบบเหนือเมฆ”

หลาว หลงจ้าว ในชื่อปลอมว่า เชอรี่ หนีการตามจับตัวของตำรวจมาได้นานถึงยี่สิบปี เธอคงตายใจแล้วว่าจะไม่มีใครจำเธอได้ หรือตามจับเธอได้

หลาว หลงจ้าว ใช้ชีวิตเหมือนคนจีนทั่วไป มีตัวตนอยู่ในสื่อโซเชียลจีนในชื่อใหม่ เชอรี่ มีการโพสต์ภาพหรือกิจกรรมต่างๆของเธอเหมือนคนจีนทั่วไป

แต่ข้อมูลบิ๊กเดต้าในยุคนี้มันเชื่อมโยงกันหมด ถ้าตามจับกันจริงๆมีโอกาสจะพบตัวผู้กระทำผิดที่หนีคดีได้ไม่ยาก

ถ้ามีรูปภาพจากอดีต อยากรู้ว่าปัจจุบันหน้าตาเป็นอย่างไรก็ให้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ประเมินว่าหน้าตาปัจจุบันจะเป็นอย่างไร หลังจากนั้นก็เอารูปนั้นไปเทียบเคียงหาแม๊ตชิ่งกับภาพคนจีนทั่วประเทศที่อยู่ในสื่อโซเชียล หรืออยู่ในระบบของกล้องหลายร้อยล้านตัวของทางการจีน

เส้นทางการเงินน่าจะเป็นช่องทางที่ตามจับคนได้ง่ายที่สุด วิเคราะห์ข้อมูลจากธุรกรรมของเพื่อนหรือญาติพี่น้องใกล้ชิด ก็อาจค้นเจอ ตามดูว่าคนกลุ่มนี้เคยติดต่อกับใครบ้างก็ทำได้ไม่ยาก

ตำรวจไม่อยากเปิดเผยรายละเอียดอะไรมากนัก เพราะมันอาจทำให้ผู้ร้ายไหวตัวล่วงหน้า และตามจับได้ยากขึ้น

ถ้าประเทศไทยมีปฏิบัติการลงดาบแบบเหนือเมฆเหมือนจีนบ้างน่าจะดี!!!

https://www.scmp.com/news/china/society/article/3040213/chinese-serial-killer-caught-after-spending-20-years-run

http://www.bjnews.com.cn/news/2019/07/24/607121.html

.

Leave a Reply