คนงาน 80,000 คน ในอุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลก กำลังจะตกงานในไม่กี่ปีข้างหน้า
รถไฟฟ้ากำลังจะมาพลิกคว่ำอุตสาหกรรมรถยนต์
วันนี้เริ่มเห็นภาพชัดใน เยอรมัน อเมริกา สหราชอาณาจักร
ในยุโรป ฟอร์ดมีแผนจะตัดลดคนงาน 12,000 ตำแหน่ง
ปลายเดือนพฤศจิกายน 2019 เดมเลอร์ เบนซ์ และ ออดี้ ประกาศตัดลดตำแหน่งงาน 20,000 คน มีคนเยอรมันมากถึง 15,000 คน ออกมาประท้วงบนท้องถนนสำหรับการเลิกจ้าง
นับเฉพาะเยอรมัน หากรวมถึงโรงงานที่กำลังประกอบรถยนต์หรือผลิตรถยนต์ในต่างประเทศ มีคนที่ทำงานเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมรถยนต์เยอรมันมากกว่า 150,000 คน คนกลุ่มนี้กำลังอยู่ในความเสี่ยงที่จะตกงาน
ปี 2019 จะกลายเป็นปีที่แย่ที่สุดสำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลก ความต้องการซื้อรถยนต์หดตัวลง มีการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี ผู้คนรอเวลาเพื่อหันไปซื้อรถคันใหม่เป็นรถไฟฟ้า มีปัญหาเรื่องภาษีจากสงครามการค้าอเมริกา-จีน ผู้คนเริ่มซื้อรถน้อยลงเพราะนิยมเรียกรถผ่านแอปมากขึ้น ฯลฯ
ปี 2019 จะมียอดการผลิตรถยนต์และรถบรรทุกขนาดเบาทั่วโลกรวม 88.8 ล้านคัน คิดเป็นตัวเลขที่ผลิตลดลงเมื่อเทียบกับปี 2018 เกือบ 6%
ประเทศจีนก็ได้รับผลกระทบจากการหดตัวของอุตสาหกรรมรถยนต์
ประเทศญี่ปุ่นก็มีปัญหา อีกไม่กี่ปีข้างหน้าจะต้องลดจำนวนคนงานผลิตรถยนต์ลงมากถึง 12,500 ตำแหน่ง
แนวทางเร่งด่วนที่บริษัทรถยนต์ทั่วโลกกำลังทำอยู่ในวันนี้ คือ การลดต้นทุนเพื่อความอยู่รอด
ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่เกือบทุกราย มีการเตรียมตัวล่วงหน้าเอาไว้นานแล้ว นอกจากจะต้องแข่งขันกันเอง ยังต้องเจอกับคู่แข่งรายใหม่ๆอีกมากจากนอกวงการ แล้วยังต้องแข่งกับธุรกิจอื่นอย่างพวกแอปเรียกรถที่ทำให้คนใช้รถส่วนตัวน้อยลงด้วย
แนวทางที่บริษัทรถยนต์ในยุโรปและอเมริกาได้เริ่มเตรียมตัวมาหลายปี เช่น
-พัฒนารถไฟฟ้า
-พัฒนาและสร้างโรงงานแบตเตอรี่
-พัฒนาเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติแบบไร้คนขับ
-ขยายตัวเข้าไปสู่ธุรกิจแอปเรียกรถ
มีนักวิเคราะห์บางสำนักคาดการณ์ไว้ว่า ภายในปี 2025 รถที่ผลิตใหม่ทุกคันจะเป็นรถไฟฟ้า และจะไม่มีใครผลิตรถยนต์ใช้น้ำมันกันอีกต่อไป
ประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในแหล่งผู้ผลิตรถยนต์ที่สำคัญของโลก แต่ดูเหมือนว่าจะไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไรกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ครั้งนี้ของโลกเลย!!!
.