ธุรกรรมการเงินดิจิทัล วิถีชีวิตที่ง่ายขึ้น ธนาคารกำลังดิสรัปตัวเองสู่ยุคออนไลน์

ผมลองพยายามนึกทบทวนว่า… ครั้งหลังสุดที่ไปทำธุรกรรมที่ธนาคาร คือ เมื่อไหร่?

ปี 2018 และ ปี 2019 ไม่เคยไปแน่นอน จำไม่ได้แล้วว่าครั้งหลังสุดได้ไปธนาคารในปีไหน?

ช่วงเดือนกันยายน 2019 เคยเขียนเรื่องคุณอรพงศ์ เทียนเงิน ผู้จัดการใหญ่ ธ.ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) คุยให้ฟังว่า วันนี้มีคนไปทำธุรกรรมทางการเงินที่สาขาธนาคารเพียง 4% ที่เหลือทำผ่านระบบดิจิทัลแบบออนไลน์

คนส่วนใหญ่จัดอยู่ในพวก 96% ที่ไม่ได้ไปธนาคารแล้ว

ตัวเลขสัดส่วนธุรกรรมแบบออนไลน์ของธนาคารอื่นก็คงอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน

มันคงคล้ายๆกับการอ่านข่าวของคนส่วนใหญ่ในวันนี้ ซึ่งในอดีตเคยอ่านจากหนังสือพิมพ์ที่เป็นกระดาษ แต่วันนี้นิยมอ่านแบบออนไลน์ทางอินเตอร์เน็ต นับวันไปหนังสือพิมพ์ก็จะล้มหายตายจากไปเรื่อยๆ และในที่สุดอาจกลายเป็นอดีตที่ไม่มีให้เห็นอีกต่อไป…

ข่าวและบทความเกี่ยวกับโลกดิจิทัลและสังคมไร้เงินสด ที่ผ่านมาส่วนใหญ่เป็นข่าวจากอเมริกาและจีน แต่วันนี้มันเริ่มกลายเป็นกระแสโลกที่เกิดขึ้นในประเทศไทย

เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2561 SCB ประกาศยกเลิกค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมผ่าน SCB EASY ทั้งหมด โอน จ่าย เติม กด ฟรีหมด

เคยโอนเงินต่างธนาคารแล้วเสียค่าธรรมเนียม 25-35 บาท ไม่ต้องเสียแล้ว

เคยโอนเงินข้ามเขตแล้วต้องเสียครั้งละ 10 บาท กลายเป็นบริการฟรี

จ่ายบิล เติมเงิน กดเงิน กลายเป็นบริการฟรีที่ไม่มีค่าธรรมเนียมอะไร

วันที่ 26-03-2561 SCB เปิดเกมค่าบริการฟรีให้ลูกค้าเป็นธนาคารแรก วันต่อมาธนาคารอื่นก็ปรับเปลี่ยนตามมาตรฐานของ SCB บ้าง เช่น

-27-03-2561 Kbank

-28-03-2561 KTB

-1-04-2561 Bangkok Bank

ธุรกรรมออนไลน์ฟรีกลายเป็นมาตรฐานของทุกธนาคาร ไม่มีค่าใช้จ่ายเหมือนไปทำธุรกรรมต่างๆด้วยตัวเองที่สาขาธนาคาร

ในประเทศจีน Alibaba และ Tencent ซึ่งไม่มีพื้นฐานด้านธุรกิจการเงินเป็นผู้พลิกโฉมโลกการเงินและมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนจีนให้เป็นสังคมไร้เงินสด

ประเทศไทยก็เหมือนกับประเทศอื่นๆในโลก ซึ่งการซื้อสินค้าและบริการแบบออนไลน์มีเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหมายถึงธุรกรรมทางการเงินแบบออนไลน์ที่มีมากขึ้นตามไปด้วย

การจ่ายเงินผ่านคิวอาร์โค้ดที่ซื้อสินค้าและบริการแบบออฟไลน์แม้จะยังไม่ใช่มาตรฐานการจ่ายเงินหลักในประเทศไทย แต่ก็เริ่มแพร่หลายมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สำหรับประเทศไทย ธนาคารอาจเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการดิสรัปตัวเองเข้าสู่ยุคออนไลน์

ยกตัวอย่างของผู้ที่ใช้ SCB EASY วันนี้สามารถ เติมเงินมือถือ จ่ายค่าเน็ต เติมเงินบัตร Easy Pass จ่ายค่าน้ำค่าไฟ ฯลฯ มีบริการทางด้านการเงินอีกหลายอย่างที่เมื่อก่อนต้องไปพบกับเจ้าหน้าที่ในธนาคารโดยตรง แต่วันนี้สามารถทำแบบออนไลน์ได้ SCB ยังมีบริการเชื่อมโยงกับแอปแชทยอดนิยมของประเทศไทย LINE เงินเข้าออกมีการแจ้งเตือนผ่านไลน์ฟรี

ความเคยชินกับวิธีการเก่าๆที่คุ้นเคย ทำให้ผู้ที่ไม่ปรับตัวเสียโอกาสได้รับบริการดีๆที่คุ้มค่ามากขึ้น

การปรับตัวเองหันมาใช้บริการธนาคารแบบออนไลน์เป็นผลประโยชน์ของผู้ใช้บริการโดยตรง มันอาจสับสนในช่วงแรกอยู่บ้าง แต่ในระยะยาวแล้วจะกลายเป็นเรื่องปกติ คนอายุมากกว่าอาจรู้สึกยุ่งยากมากกว่า แต่สำหรับเด็กรุ่นใหม่ มันเป็นวิถีชีวิตของพวกเขา

ในด้านการบริหารของธนาคาร ก็อยากให้ประชาชนทั่วไปหันไปใช้บริการแบบออนไลน์มากขึ้น เพราะต้นทุนต่ำมาก

ถ้าคนที่ยังไปทำธุรกรรมที่ธนาคารด้วยตัวเองซึ่งวันนี้มีอยู่แค่ 4% หันไปทำธุรกรรมแบบออนไลน์หมด สาขาธนาคารที่มีอยู่มากมายจะหมดความจำเป็น ธนาคารมีโอกาสลดค่าใช้จ่ายและเอาเงินไปสร้างบริการแบบออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพดีขึ้น ต้นทุนต่ำลง และผลประโยชน์สูงสุดจะเป็นของผู้ใช้บริการ

ใครที่ทำธุรกรรมด้านการเงินแบบออนไลน์เป็นประจำอยู่แล้ว ถ้าเทียบกับระบบเก่า ชีวิตมันง่ายขึ้นมาก แต่ยังมีการเปลี่ยนแปลงที่จะได้เห็นตามมาอีกมากมายในอนาคต!

https://www.scb.co.th/th/personal-banking/stories.html#business-maker

Leave a Reply