อเมริกัน แบน AI จีนเพราะละเมิดอุยกูร์ สกัดเทคจีนไม่ให้โต แต่จีนยิ่งโตเร็วขึ้น “ของขวัญแห่งยุค” ทำให้รู้จักพึ่งตัวเอง

เมื่อเดือนตุลาคม 2019 อเมริกาสั่งแบนบริษัทเทคโนโลยี AI จีน 8 แห่ง โดนกล่าวหาว่า รัฐบาลจีนในปักกิ่งใช้เทคโนโลยีของบริษัทเหล่านี้ในการละเมิดสิทธิมนุษยชนชาวอุยกูร์ และชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมกลุ่มอื่นๆ

บริษัทอเมริกันจะไม่ขายเทคโนโลยีอะไรให้กับบริษัทเทคจีนทั้ง 8 แห่ง

Megvii และ iFlyTek สองบริษัทเทคด้าน AI ชื่อดังของจีน อยู่ในกลุ่ม 8 บริษัทที่โดนอเมริกาสั่งแบน และถูกขึ้นบัญชีดำไม่ยอมขายเทคโนโลยีให้

Megvii ออกแถลงการณ์ในวันที่ 1 มกราคม 2020 ว่า ผลที่ตามมาได้กลายเป็น “Coming of age gift” หรือ “ของขวัญแห่งยุค” มันสอนให้บริษัทรู้ว่า ต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมระหว่างประเทศที่ซับซ้อน และเปลี่ยนไปได้อย่างไร

Face++ หรือชื่อใหม่ iFlyTek บอกว่า การถูกแบนเป็นแรงผลักดันให้มีการวิจัยพัฒนาด้วยตัวเองมากขึ้น และเป็นสิ่งที่มีการเตรียมตัวล่วงหน้ามาตั้งแต่เริ่มมีสงครามการค้าระหว่างอเมริกาและจีนแล้ว

การโดนแบล็กลีสต์จากอเมริกา เป็นอุสรรคในการทำงานก็จริง แต่ไม่ได้ทำให้บริษัทเทคจีนเหล่านี้ย่อท้อหรือเดินหน้าต่อไม่ได้ ยังมีการเติบโตต่อเนื่อง แต่ต้องพึ่งพาตัวเองมากขึ้น

 

Megvii บริษัทเทคจีนที่วันนี้กำลังพัฒนาด้าน AI และ IoT ยังคงเติบโตไม่หยุด สิ่งที่ได้ทำไปแล้ว และจะเดินหน้าต่อไปในปี 2020 เช่น

-IoT ของ Megvii สามารถรองรับการทำงานเทคโนโลยีการจดจำใบหน้าและการจ่ายเงินมากกว่า 3,500 ล้านครั้งทุกวัน เป็นอัลกอริทึมที่ครอบคลุมระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 70% ในตลาดประเทศจีน

-บริการด้าน IoT ของ Megvii ครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 100 เมืองในประเทศจีน และอีก 15 พื้นที่ในต่างประเทศ ทำหน้าที่สนับสนุนด้านการระบุตัวตนด้วยใบหน้าในการเข้าสู่ชุมชนต่างๆถึง 100 ล้านครั้งต่อวัน

-ซัพพลายเชนของ IoT ช่วยทำให้การขนส่งสินค้ามากกว่า 1.5 ล้านแพ็กค์ถึงที่หมายได้ตามเวลาในช่วงวันคนโสด (11/11) โดยทำงานร่วมกับหุ่นยนต์ 400 ตัว

-Megvii มีส่วนร่วมในการเปลี่ยนผ่านห่วงโซ่อุปทาน หรือซัพพลายเชน ของคลังสินค้าและโรงงานแบบดั้งเดิม 30 แห่ง ให้กลายเป็นระบบอัจฉริยะ และได้อัพเกรดร้านสะดวกซื้อมากกว่า 1,000 แห่ง

 

iFlyTek บริษัท AI ชื่อดังจีนอีกแห่ง กำลังผลักดันในการสร้างนวัตกรรมต้นแบบของตัวเอง ตัวอย่างของงานที่ iFlyTek จีนกำลังทำ เช่น

-ผู้ช่วยแพทย์อัจฉริยะ วันนี้ให้บริการในศูนย์สุขภาพชุมชนกว่า 1,200 แห่งในเกือบ 100 มณฑลทั่วประเทศจีน ผู้ช่วยหมออัจฉริยะของ iFlyTek คอยทำหน้าที่วินิจฉัยโรคและให้คำแนะนำโดยเฉลี่ย 200,000 ครั้งต่อวัน

-เทคโนโลยี AI ของ iFlyTek ช่วยวางระบบการศึกษาในโรงเรียนจีน 35,000 แห่ง ปัจจุบันผลิตภัณฑ์และบริการ Smart Education หรือ การศึกษาอัจฉริยะ ถูกใช้งานโดยครอบคลุมนักเรียนและครูมากกว่า 100 ล้านคนในประเทศจีน

-เทคโนโลยีของ iFlyTek ถูกนำไปใช้ในศาลเกือบ 5,000 แห่งในประเทศจีนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินคดี สิ่งที่ผู้ช่วยอัจฉริยะในศาลสามารถทำได้ เช่น เปรียบเทียบพยานหลักฐาน ตรวจสอบ แสดงข้อสงสัยในประเด็นของกฎหมาย ดูรูปแบบ ดูความเชื่อมโยงของคดี เอาหลายๆคดีที่แตกต่างกันมาเปรียบเทียบกัน ฯลฯ

 

แม้จะโดนอเมริกาสกัดโต แต่บริษัทเทคจีนไม่ได้เดินหน้าช้าลง แต่ทำให้ต้องทำงาน หนักขึ้น เร็วขึ้น

ที่บอกว่าเป็น “ของขวัญแห่งยุค” สำหรับเทคจีน ฟังดูแล้วอาจเหมือนประชดประชัน!!!

แต่ถ้าคิดลึกมากขึ้น มันก็เหมือนกับการเลิกให้ความช่วยเหลือเด็กคนหนึ่งที่เคยพึ่งพาเรามานาน แต่ในที่สุดเขาก็รู้จักโต อยู่รอด และเติบใหญ่ ได้ด้วยตัวเอง…

https://www.scmp.com/tech/start-ups/article/3044188/chinas-ai-champions-are-already-powering-mind-boggling-array

.

Leave a Reply