ในงาน CES ประจำปี 2020 ซึ่งจัดในลาสเวกัส โตโยต้ายักษ์ใหญ่ผู้ผลิตรถยนต์เบอร์หนึ่งของโลก ประกาศเปิดตัวโครงการใหม่ Woven City เมืองอัจฉริยะแห่งอนาคต ตั้งใจใช้เป็นสถานที่ทดลองเทคโนโลยีใหม่ๆในสภาพแวดล้อมจริง
เทคโนโลยีอัจฉริยะที่จะทดลองใช้ในเมืองนี้ เช่น Autonomous Vehicle, Data, Sensor, AI, Hydrogen Fuel Cells, Solar, Robot ฯลฯ
เมืองอัจฉริยะทดลองขนาด 175 เอเคอร์ จะเริ่มสร้างในปี 2021 ตั้งอยู่เชิงเขาภูเขาไฟฟูจิของญี่ปุ่น ห่างจากโตเกียวประมาณ 60 ไมล์ หรือ 97 กิโลเมตร
Woven City เป็นเมืองที่ยั่งยืน ได้พลังงานจาก Hydrogen Fuel Cells และ Rooftop Solar Panels ไม่ต้องพึ่งพาไฟฟ้าหรือพลังงานอะไรจากภายนอก คาดว่าจะมีคนอยู่ร่วมกันประมาณ 2,000 คน
กลุ่มผู้อยู่อาศัยชุดแรกจะเป็นพนักงานของโตโยต้า ซึ่งสามารถอยู่ร่วมกับครอบครัว กลุ่มคนอื่นๆที่จะเข้ามาอยู่ร่วมด้วย เช่น ผู้เกษียณอายุ ร้านค้าปลีก นักวิจัย พาร์ทเนอร์ของโครงการ ฯลฯ
นักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ วิศวกร สามารถทดสอบเทคโนโลยีใหม่ๆในสภาพแวดล้อมการใช้ชีวิตจริง
แหล่งกักเก็บพลังงานและเครื่องกรองน้ำจะติดตั้งซ่อนอยู่ใต้ดิน ด้านบนมี ที่พักอาศัย ร้านค้า พลาซ่า พื้นที่สาธารณะ พื้นที่สีเขียว ที่จอดรถ ทางเดินเท้าที่ปราศจากรถยนต์ ฯลฯ
โดรนทำหน้าที่สอดส่องความเรียบร้อยของทั้งเมือง
ตึกที่พักอาศัยและยานพาหนะทุกคัน เชื่อมต่อและสื่อสารระหว่างกันด้วยข้อมูลและเซนเซอร์ ทำให้สามารถทดสอบเทคโนโลยี AI ในสภาพเสมือนจริงและสภาพโลกจริง
AI จะสร้างระบบสาระสนเทศอัจฉริยะที่ทำงานได้เองโดยอัตโนมัติ
บนถนนจะมีแต่รถไร้คนขับและไร้มลพิษ มีรถ Toyota e-Palette คอยบริการรับส่งผู้คนทั้งเมือง
ภายในบ้านอัจฉริยะแต่ละหลัง มีระบบหุ่นยนต์ผู้ช่วยสำหรับการใช้ชีวิตประจำวัน อุปกรณ์ต่างๆมีระบบการทำงานที่เชื่อมต่อกันเต็มรูปแบบด้วยเซนเซอร์ ทำให้สามารถทำงานหลายอย่างแบบอัตโนมัติ เช่น เติมอาหารที่พร่องใส่ตู้เย็น เอาขยะไปทิ้ง ดูแลสุขภาพของผู้อยู่อาศัย ฯลฯ
ในยุคนี้ โซเชียลมีเดีย ร้านค้าออนไลน์ เข้ามาอยู่ในวิถีชีวิตส่วนใหญ่ของผู้คนทั่วโลก ทำให้การพบปะของผู้คนจริงๆมีน้อยลง
Woven City กำลังพยายามหาหนทางกระตุ้นให้ผู้คนในเมืองมีปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้น
ความสัมพันธ์ที่เชื่อมต่อผู้คนในชีวิตจริง มีส่วนทำให้มนุษย์มีความสุขมากขึ้น สร้างผลผลิตที่ดีขึ้น และช่วยทำให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ
แนวคิดดูน่าสนใจ เทคโนโลยีใหม่ๆในเมืองอัจฉริยะที่โตโยต้ากำลังทำ ไม่ได้พยายามโดดเดี่ยวผู้คน แต่กำลังพยายามนำผู้คนมาเชื่อมต่ออยู่ร่วมกันมากขึ้น
.