4-02-2020 รายงานจาก South China Morning Post ไวรัสอู่ฮั่นมียอดผู้ติดเชื้อล่าสุด 19,852 คน ตาย 426 คน อัตราการตายของผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 2.1%
ข้อมูลเปรียบเทียบกับโรคระบาดอื่นๆ คือ
ซาร์ส ผู้ติดเชื้อ 8,437 คน ตาย 813 คน อัตราการตาย 9.6%
เมอร์ส ผู้ติดเชื้อ 2,494 คน ตาย 858 คน อัตราการตาย 34.4%
อีโบลา ผู้ติดเชื้อ 34,453 คน ตาย 15,158 คน อัตราการตาย 43.9%
H1N1 หรือไข้หวัด 2009 ผู้ติดเชื้อ 183,590 คน ตาย 1,152 คน อัตราการตาย 0.6%
ส่วน US seasonal flu เป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล โดยประเมินช่วงปี 2019-2020 มีอัตราการตายของผู้ติดเชื้อ 0.07%
จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสอู่ฮั่นที่มีรายงานความเคลื่อนไหวทุกวัน คงไม่ใช่ตัวเลขของจำนวนผู้ที่มีการติดเชื้อจริง ยังมีคนที่ไม่ได้ตรวจเชื้ออีกมาก มีระยะฝักตัวของเชื้อไวรัสเฉลี่ยประมาณ 7 วัน
มีรายงานวิจัยชิ้นใหม่พบว่า ผู้ที่ได้รับเชื้อ 2019-nCoV หรือไวรัสอู่ฮั่น แม้จะไม่มีอาการแสดงก็สามารถเป็นพาหะแพร่เชื้อได้ มีกรณีตัวอย่างเกิดขึ้นแล้ว ผู้ชายคนหนึ่งในเยอรมันเกิดอาการป่วยและตรวจพบไวรัสอู่ฮั่นทั้งๆที่ไม่เคยเดินทางไปไหน แต่เมื่อสืบเสาะแล้วพบว่า เขาได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งจากเซี่ยงไฮ้หลายวันก่อนหน้านี้ โดยช่วงที่พบกันผู้หญิงคนนี้ไม่มีอาการอะไรแสดงให้เห็น แต่เริ่มมีอาการไข้ในช่วงที่เธอเดินทางกลับบ้าน
https://futurism.com/neoscope/people-symptoms-spread-coronavirus
ทางการจีนตำหนิสหรัฐอเมริกาว่ามีปฏิกิริยาโต้ตอบกับปัญหาไวรัสอู่ฮั่นเกินเหตุ การแบนเที่ยวบินเข้าออกทุกเที่ยวระหว่างอเมริกาและจีนเป็นมาตรการที่เกินเลยความจำเป็น
Uber ในแม็กซิโกแบนคนขับอูเบอร์ 2 คน และระงับบัญชีการใช้งานผู้โดยสาร 240 ราย เพราะอาจมีโอกาสติดเชื้อไวรัสอู่ฮั่น ทั้งนี้เพราะมีคนจีนที่ใช้บริการอูเบอร์ 2 ครั้ง ซึ่งเมื่อเดินทางกลับไปแล้วพบว่าเป็นคนจีนที่ติดเชื้อไวรัสอู่ฮั่น และคนขับอูเบอร์ทั้ง 2 คน ได้รับผู้โดยสารรวม 240 ราย มีรายงานบันทึกข้อมูลแบบดิจิตอลครบถ้วนทุกคน รอให้ผ่านไป 2 สัปดาห์ก่อนว่าคนเหล่านี้เป็นอะไรหรือเปล่า
https://www.bbc.com/news/technology-51358042
คนฮ่องกง 30 ครอบครัวที่เดินทางกลับจาก หูเป่ย ศูนย์กลางการระบาดไวรัสอู่ฮั่นในประเทศจีน ถูกบังคับให้ใส่ Wristband ไว้ที่ข้อมือเพื่อติดตามอาการ รัฐบาลฮ่องกงมีอีเล็กโทรนิครีสแบนด์ 500 อัน เพื่อใช้ในกรณีที่ต้องทำการกักกันผู้ต้องสงสัยติดเชื้อเพิ่มขึ้น
สูตรยาที่แพทย์ไทยใช้ได้ผลกับผู้ติดเชื้อไวรัสอู่ฮั่น 2 รายในประเทศไทย มีรายงานทางวิชาการตีพิมพ์มาก่อน แต่หมอจากโรงพยาบาลราชวิถียืนยันว่าไม่เคยเห็นมาก่อน เป็นความคิดที่เห็นตรงกัน แต่โดสหรือขนาดการใช้ยาไม่เท่ากัน ผลการรักษาที่ได้ครั้งนี้ยังไม่ใช่มาตรฐานทางวิชาการ
https://multimedia.scmp.com/widgets/china/viruscompare/