มอสโค เมืองหลวงของรัสเซียใช้ AI ที่เป็นเทคโนโลยีจดจำใบหน้าคนมาใช้บันทึกข้อมูลผู้ที่ต้องถูกกักกัน เพราะเดินทางมาจากประเทศจีน และมีความเสี่ยงติดเชื้อ COVID-19
ผู้ที่เดินทางมาจากประเทศจีนทุกคนถูกสั่งให้อยู่แต่ในที่พัก 14 วัน AI จะทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้มีการกระทำความผิดในการออกมาจากที่พัก
ในช่วงนี้ ประเทศรัสเซียไม่อนุญาตให้คนสัญชาติจีนเดินทางเข้าประเทศรัสเซียเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไวรัส แต่ยอมให้คนรัสเซียที่อยู่ประเทศจีนเดินทางกลับเข้ารัสเซียได้ โดยมีข้อบังคับให้กักตัวเองอยู่ในบ้าน 2 สัปดาห์
วันนี้มีตัวเลขคนรัสเซียที่เดินทางกลับจากประเทศจีนประมาณ 2,500 คน และทุกคนต้องถูกกักกันอยู่แต่ในโรงแรมหรือที่พักตามคำสั่ง คนที่ถูกกักกันแต่ละคน จะถูกบันทึกภาพใบหน้าด้วย AI และมีข้อมูลอยู่ในระบบที่สามารถตรวจสอบคนเหล่านี้ได้ว่า แต่ละคนอยู่ที่ไหน มีใครแอบหลบหนีออกจากที่พักบ้าง
Facial Recognition เพื่อเก็บข้อมูลผู้ที่ถูกสั่งให้กักกันตัวเอง เริ่มใช้ใน มอสโค ตั้งแต่เดือนมกราคม 2020 แม้ดูเหมือนจะเป็นการบังคับที่เข้มงวดมาก แต่เป็นความจำเป็นที่หมายถึงความปลอดภัยของคนส่วนใหญ่ทั้งประเทศ
มีหญิงรัสเซียคนหนึ่งซึ่งเดินทางกลับจากประเทศจีน และถูกสั่งให้อยู่ในที่พักเท่านั้น แต่เธอละเมิดคำสั่ง และออกจากอพาร์ทเม้นท์ไปพบเพื่อน ๆ นอกบ้าน AI ของรัสเซียสามารถตรวจจับเธอได้ขณะเดินทางด้วยแท็กซี่กลับจากสนามบิน
ข้อมูลล่าสุดถึงวันที่ 23-02-2020 รัสเซียมีรายงานผู้ติดเชื้อโคโรน่าไวรัส 2 คน
การใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยในการกักกันคน น่าจะทำให้การระบาดของไวรัสในรัสเซียมีน้อย หรือไม่รุนแรง
…………………………………..
วันอาทิตย์ที่ 23-02-2020 ความคืบหน้าการระบาด COVID-19 ข้อมูลจาก South China Morning Post คือ
-ยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลก 78,724 คน (จีน 76,936 คน, ญี่ปุ่น 751 คน, เกาหลีใต้ 556 คน, สิงคโปร์ 89, ฮ่องกง 70, อิตาลี 51, อเมริกา 35, ไทย 35 คน)
-ยอดผู้เสียชีวิตทั่วโลก 2,462 คน (จีน 2,442 คน, อิหร่าน 6, เกาหลีใต้ 4, ญี่ปุ่น 3 คน, ฮ่องกง 2 คน, อิตาลี 2, ฟิลิปปินส์ 1 คน, ฝรั่งเศส 1, ไต้หวัน 1)
-ยอดผู้ติดเชื้อรักษาหาย 23,092 คน