
National Aeronautics and Space Administration หรือที่มักจะเรียกอย่างย่อว่า NASA ของสหรัฐอเมริกา ได้ให้ทุนกับสถาบัน SETI มาอย่างต่อเนื่องนานกว่าสามสิบปี
SETI หรือ “Search for Extraterrestrial Intelligence” เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร และทำการศึกษาเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวโดยตรง หัวข้อที่ทำการศึกษา เช่น ชีวิตในจักวาล ดาราศาสตร์ ชีววิทยา วิทยาศาสตร์อวกาศ โดยแสดงให้เห็นภาพใหญ่โดยรวมของอวกาศ
แต่สำหรับโครงการใหม่ที่นาซาประกาศให้ทุนนักดาราศาสตร์จากฮาวาร์ด และนักวิทยาศาสตร์อีกหลายสถาบัน เป็นโครงการที่ศึกษาแบบเฉพาะเจาะมากขึ้น เพราะตั้งเป้าจะสแกนท้องฟ้าเพื่อหาร่องรอยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เป็นอารยธรรมของมนุษย์ต่างดาว
นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า หากเอเลียนมีอารยธรรมที่ก้าวหน้า อาจทำอะไรเหมือนมนุษย์บนโลก เช่น สร้างมลพิษทางอุตสาหกรรมในบรรยากาศ มีแสงไฟในเมือง ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ มีสิ่งก่อสร้างที่เป็นโครงสร้างขนาดใหญ่ หรืออาจมีฝูงดาวเทียมจำนวนมาก ฯลฯ
นักดาราศาสตร์สามารถสแกนท้องฟ้าได้ไกล ไปดูดาวเคราะห์ที่มีอยู่มากมายที่ไม่ได้จัดเป็นดาวเคราะห์ในระบบสุริยะจักวาล มันอาจเป็นที่อยู่อาศัยหรือเป็นที่ก่อตัวของสิ่งมีชีวิตนอกโลกได้
ในการศึกษาเบื้องต้น จะมีการสแกนท้องฟ้าเพื่อหาสัญญาณแผงโซลาร์และมลพิษต่างดาว ซึ่งตั้งข้อสมมุติฐานว่า เป็นสิ่งที่สิ่งมีชีวิตที่รู้จักใช้เทคโนโลยีจะทำกัน
ดาวที่อยู่ใกล้โลกมากที่สุด คือ Proxima Centauri ตำแหน่งของดาวดวงนี้ถูกล็อกไว้ ด้านหนึ่งเป็นกลางวันถาวร และอีกด้านหนึ่งเป็นกลางคืนถาวร
หากมีมนุษย์ต่างดาวที่มีอารยธรรมบนดาวดวงนี้ เอเลี่ยนคงต้องการให้ด้านที่เป็นกลางคืนถาวรมีอากาศอุ่นขึ้น อาจมีการติดตั้งแผงโซลาร์ไว้ด้านที่เป็นกลางวันถาวร และทำการถ่ายโอนพลังงานจากด้านกลางวันมาใช้ด้านกลางคืน
นักดาราศาสตร์หวังว่าจะได้เห็นแสงสะท้อนพระอาทิตย์จากแผงโซลาร์
มีสิ่งที่ไม่รู้ และไม่มีคำตอบที่มีเหตุผลมากมาย โลกเคยได้รับสัญญาณคลื่นวิทยุจากอวกาศและไม่รู้ว่ามันเป็นอะไรแน่
คงไม่มีใครบอกได้ว่า มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอารยธรรมเพียงชนิดเดียวในจักวาล!!!