Tesla โดดเข้ามาในธุรกิจรถยนต์ด้วยการทำรถไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ก่อตั้งในเดือนกรกฎาคม 2003 ผ่านมา 17 ปี วันนี้กลายเป็นบริษัทรถยนต์ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก แซงหน้า Toyota ที่มีอายุ 82 ปี
จุดประสงค์ของ อีลอน มัสก์ ผู้ร่วมก่อตั้ง เทสล่า ต้องการทำรถไฟฟ้าที่คนส่วนใหญ่สามารถหาซื้อได้ แต่ได้เริ่มธุรกิจด้วยรถรุ่น Roadster ซึ่งเป็นรถหรูตลาดบน เพราะต้นทุนการผลิตรถไฟฟ้าเมื่อสิบกว่าปีก่อนสูงมาก เป็นความพยายามสร้างกำไรเพื่อนำมาเป็นทุนสำหรับการผลิตรถรุ่นอื่นๆที่มีราคาต่ำลงมา
ต่อมาก็มีรถตลาดออกมาอีกหลายรุ่น คือ S, 3, X, Y
Tesla Model 3 ที่จริงตั้งใจจะใช้ชื่อว่า Tesla Model E แต่ Ford เอาชื่อ Model E ไปใช้แล้ว ซ้ำกันไม่ได้
อีลอน มัสก์ เคยเล่าให้ฟังว่า ถ้า Model 3 เป็น Model E เขาจะมีรถหลายรุ่นที่เวลาเอาชื่อมารวมกันแล้วจะกลายเป็น S-E-X-Y หรือ เซ็กซี่
นอกจาก S-3-X-Y แล้วยังมี Tesla Semi รถบรรทุกขนาดใหญ่ที่ใช้เป็นรถหัวลากขนส่งสินค้าที่กำลังอยู่ระหว่างเตรียมการ มีบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการขนส่ง สั่งจองเข้ามาจำนวนมาก
รถอีกรุ่นของ Tesla ที่ฮือฮาและเป็นที่กล่าวขวัญกันมาก คือ Cybertruck
Cybertruck มีคุณสมบัติที่น่ามหัศจรรย์ ทำงานได้ดีกว่ารถบรรทุก มีประสิทธิภาพเหนือกว่ารถสปอร์ต สเป็คที่เหนือชั้นกว่ารถทั่วไปในตลาด เช่น
-กระจกรถเป็น Armor Glass หรือกระจกกันกระสุน
-ULTRA-HARD 30X COLD-ROLLED STANLESS STEEL ที่ช่วยทำให้รถไม่มีรอยบุบ ทนทานต่อการกัดกร่อนตัวถังในระยะยาว และช่วยป้องกันสูงสุดให้กับคนที่อยู่ในรถ
-เป็นรถอเนกประสงค์ 6 ที่นั่ง แบกน้ำหนักได้ 3,500 ปอนด์ (1,587 กก.) มีระบบกันสะเทือนแบบปรับอากาศ มีพื้นที่จัดเก็บ 100 ลูกบาศก์ฟุตในพื้นที่ล็อกได้
-ใช้เป็นรถลากจุงน้ำหนักได้มากกว่า 14,000 ปอนด์ (6,350 กก.)
-หน้าจอสัมผัส 17 นิ้ว
-ออกตัว 0-60 mph (0 – 96.56 kph) ภายในเวลา 2.9 วินาที
-ชาร์จไฟครั้งหนึ่งวิ่งได้นาน 500 ไมล์ (805 กม.)
ตอนวันเปิดตัว ได้ทดลองเอาค้อนทุบรถให้สื่อดู รถไม่บุบ แต่พอเอาลูกเหล็กปาใส่กระจกรถที่บอกว่ากันกระสุนได้ กระจกเป็นรอยร้าวแต่ไม่แตก เสียหน้าไปหน่อย (ตอนทดสอบก่อนออกสื่อ กระจกไม่แตกร้าว แต่ตอนโชว์ให้สื่อเห็น มีการทุบรถก่อน แรงสะเทือนทำให้เกิดปัญหากับระบบของกระจก อีลอน มัสก์ แจ้งว่ามีการแก้ไขปัญหานี้ได้แล้ว)
Cybertruck มี 3 รุ่น ซึ่งราคาแตกต่างกัน
Single Motor RWD = $ 39,900 (1,236,900 บาท) วิ่งได้ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง 250 ไมล์ (402 กม.)
Dual Motor AWD = $ 49,900 (1,546,900 บาท) วิ่งได้ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง 300 ไมล์ (483 กม.)
Tri Motor AWD = $ 69,900 (2,166,900 บาท) วิ่งได้ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง 500 ไมล์ (805 กม.)
สำหรับใครที่ต้องการระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติแบบเต็มรูปแบบ สั่งจองวันนี้ต้องเพิ่มเงินอีก $ 8,000 (248,000 บาท)
เทสล่า แจ้งกำหนดการผลิตช่วงปลายปี 2022 โดยผู้ที่สนใจสามารถจองได้ด้วยเงิน $100 (3,100 บาท) และรับประกันคืนเงินเต็มจำนวนสำหรับผู้ที่ต้องการยกเลิกการจอง
เปิดให้จองในทวีปอเมริกาและยุโรป สรุปแล้ววันนี้มีคนจองไปแล้วมากกว่า 250,000 คัน
วันนี้ เทสล่า มีโรงงานในประเทศจีน และได้ประกาศเริ่มให้คนจีนสามารถจอง Cybertruck แล้ว ยังประเมินไม่ออกว่าจะมีจำนวนการสั่งจองในประเทศจีนมากน้อยแค่ไหน
ประเทศจีนเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกของรถไฟฟ้า และมีการสนับสนุนให้ประชาชนเปลี่ยนผ่านไปใช้รถไฟฟ้าด้วยการสนับสนุนสารพัดอย่าง
ผู้ที่ต้องการซื้อรถใช้น้ำมันในประเทศจีน จะถูกกีดกันหลายอย่าง รวมถึงการกำหนดโควต้าการจดทะเบียนรถใช้น้ำมันที่มีจำกัดมากในเมืองใหญ่หลายเมืองของจีน
บริษัทยักษ์ใหญ่รถยนต์ทุกแห่งในโลก รู้แน่ชัดแล้วว่า ตลาดในอนาคตเป็นของ EV ที่ใช้พลังงานสะอาดอย่างแน่นอน ใครที่ยังยึดติดอยู่กับ ICE ใช้น้ำมันสร้างมลภาวะ จะอยู่ไม่รอดแน่
มีนักวิเคราะห์หลายรายเริ่มคาดคะเนปีแห่งการสิ้นสุดของรถใช้น้ำมัน!?!
Tony Seba ผู้เขียนหนังสือ Clean Disruption และผู้ก่อตั้ง Rethink X ซึ่งทำนายเรื่องเทคโนโลยีและพลังงานถูกมาอย่างต่อเนื่อง ออกมาฟันธงว่า รถใหม่ทุกคันที่ขายในโลกภายในปี 2025 จะเป็นรถไฟฟ้า!!!
เหตุการณ์อาจคล้ายกับช่วงตั้งแต่ปี 2007 ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของสมาร์ตโฟน และใช้เวลาไม่กี่ปีก็ทำเอามือถือแบบเก่าตายไปจากตลาดทั้งหมด วันนี้เหลือแต่สมาร์ตโฟน
นักลงทุน หรือคนที่เอาเงินไปลงทุนซื้ออนาคต ต่างก็ฟันธงแล้วว่า อนาคตเป็นของรถไฟฟ้า
Tesla ในวันนี้ ขึ้นแท่นเป็นบริษัทรถยนต์ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก เป็นสิ่งที่ทำให้เห็นภาพชัดเจนที่สุด
https://www.tesla.com/cybertruck
https://techcrunch.com/2020/07/03/tesla-is-taking-reservations-for-its-cybertruck-in-china/
https://thedriven.io/2018/08/31/the-driven-podcast-by-2025-all-new-cars-will-be-electric/