
FDA หรือสมาคมอาหารและยาสหรัฐอเมริกา ให้การรับรองอุปกรณ์ของ Neuralink และจะเริ่มมีการทดลองกับคนเร็วๆนี้
เป็น Brain-Computer Interfaces หรือ BCIs ที่ใช้อุปกรณ์อีเล็กทรอนิคส่งสัญญาณให้เซลล์ประสาทในสมอง เพราะสมองของคน “คิด” ผ่านกระแสไฟฟ้า
มีการทดลองกับหมูไปแล้ว และกำลังจะเริ่มทดลองกับผู้ป่วย โดยผู้ที่จะได้รับการปลูกถ่ายอุปกรณ์ของ Neuralink ชุดแรกเป็นผู้ป่วยอัมพาต Paraplegia และ Tetraplegia
พาราพลีเจีย คือ อาการอัมพาตที่เป็นกับขาทั้งสองข้าง หรือตั้งแต่บริเวณอุ้งเชิงกรานและช่วงล่างของลำตัวลงไปที่ขยับเคลื่อนไหวไม่ได้
เตตร้าพลีเจีย หรือ ควอดริพลีเจีย คือ อาการอัมพาตที่แขนและขาทั้งสองข้างขยับเคลื่อนไหวไม่ได้
อาการอัมพาต ที่ทำให้ไม่สามารถขยับเคลื่อนไหวได้ เกิดจากภาวะเจ็บป่วยที่ทำให้ระบบสั่งการของสมองสำหรับควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกายเกิดความผิดพลาด ซึ่งอาจมีสาเหตุจากโรคหลอดเลือดสมอง หรือการประสบอุบัติเหตุ การเจ็บป่วยที่กระทบกระเทือนกับสมอง ไขสันหลัง กระดูกคอ และเส้นประสาทต่าง ๆ ที่ควบคุมการเคลื่อนไหวร่างกาย ทำให้เส้นทางการส่งกระแสประสาทระหว่างสมองและกล้ามเนื้อขาดช่วง
นอกจากการรักษาคนเจ็บป่วยเป็นอัมพาตแล้ว Neuralink ยังเป็นจุดเริ่มต้นความก้าวหน้าครั้งใหญ่ ที่ทำให้เกิดการทำงานร่วมกันทางชีวภาพของสมองกับเครื่องจักร สมองสามารถทำงานร่วมกับ AI
อีลอน มัสก์ เปิดเผยเพิ่มเติมถึงสิ่งที่ Neuralink สามารถทำได้ในอนาคตหลายอย่าง เช่น
-มนุษย์จะสามารถบันทึกความจำเก็บเอาไว้ แล้วเอามาเล่นใหม่ได้
-ความจำที่มนุษย์มีอยู่ สามารถอัปโหลดเก็บไว้เป็นแบ็คอัพ และดาวน์โหลดความจำทั้งหมดใส่เข้าไปในร่างใหม่ หรือร่างของหุ่นยนต์ได้
อุปกรณ์ที่จะเอามาปลูกถ่ายกับกะโหลกเป็นชิปเรียกว่า “Link” มี 1,024 ช่องต่อลิงก์ แต่ละอันมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 23 มิลลิเมตร หนา 8 มิลลิเมตร มีการเชื่อมต่อกับสมองผ่านทางสายไฟบางๆเล็กๆ
ผู้ที่ติดตั้งชิป จะไม่มีร่องรอยอะไรให้เห็น ไม่มีอะไรที่สร้างความเสียหายกับสมอง ชาร์จไฟแบตเตอรี่ครั้งหนึ่งอยู่ได้ทั้งวันเหมือนการชาร์จโทรศัพท์มือถือ
หากไม่ต้องการติดตั้ง สามารถถอดอุปกรณ์ออกจากกะโหลกได้ และไม่มีผลอะไรเสียหายตามมา
ผ่าตัดปลูกถ่ายโดยหุ่นยนต์ที่มีความแม่นยำสูง ไม่ต้องวางยาสลบ ใช้เวลาเพียงไม่ถึงชั่วโมงก็ติดตั้งอุปกรณ์เสร็จ เจาะเอากะโหลกออกแล้วเอาอุปกรณ์ใส่เข้าไปทดแทน
ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งเพียงไม่กี่พันดอลลาร์ ไม่ต่างจากการทำ LASIK ตาของคนในปัจจุบัน แต่ในอนาคตค่าใช้จ่ายในการปลูกถ่ายจะถูกลงเรื่อยๆ
นักวิทยาศาสตร์และนักเทคโนโลยีที่ติดตามข่าวการความก้าวหน้าของ Neuralink เริ่มคาดการณ์ไปไกลว่า จะทำให้เกิดการพัฒนาไปไกลอีกหลายเรื่อง เช่น
-คนแก่ที่ร่างกายเสื่อมถอยไปตามกาลเวลา จะยังมีสมองที่แหลมคมไปอีกหลายทศวรรษ
-อาจมีแอปที่ทำให้ผู้คนมีความสุข
-สามารถเสริมสร้างการทำสมาธิของคน
-สั่งงานสมองให้ลดระดับความหิว
-สั่งงานให้ตัวเองตื่นตัว
-ค้นหากูเกิลด้วยความคิด
-เชื่อมต่อการทำงานของสมองกับหุ่นยนต์แบบรีโมท ขยับแขนขาหุ่นยนต์โดยสั่งงานด้วยความคิด และรับรู้ถึงสิ่งที่หุ่นยนต์สัมผัสได้
-สมองสามารถทำงานเชื่อมต่อกับ Cloud หมายถึงการเข้าถึงความรู้ที่มีอยู่ทั้งหมดในโลกได้แบบทันที เป็นคุณสมบัติที่มนุษย์ไม่เคยมีมาก่อน และจะกลายเป็นการคิดค้นสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆตามมาอีกมาก
-ผู้ที่ติดตั้งชิปของ Neuralink สามารถส่งกระแสจิตเพื่อสื่อสารระหว่างกันได้
ระบบชีวภาพกำลังเชื่อมต่อ หรือทำงานร่วมกับอีเล็กทรอนิค หรือ AI
การติดตั้ง Neuralink เปรียบเสมือนการติดอุปกรณ์เสริมปัญญาให้กับตัวเอง คนเก่งในโลกจะมีแบบไม่จำกัดหรือมีนับพันล้านคน จะได้เห็นคนที่มีประสิทธิภาพเหมือน AI แต่มีความคิดสร้างสรรค์มากกว่า
อนาคตกำลังมาถึงเร็วกว่าที่ทุกคนคิด!!!
https://www.diamandis.com/blog/neuralink-ai-mind-merger