
สำหรับคนที่มีอายุเกินสี่สิบ คงพอจำกันได้ถึงสมัยที่การสูบบุหรี่เป็นเรื่องที่ได้รับการยอมรับโดยทั่วไป
สามารถสูบบุหรี่ในที่ต่างๆได้ เช่น โรงเรียน โรงหนัง ที่ทำงาน ร้านอาหาร รถทัวร์ เครื่องบิน โรงแรม บาร์ ฯลฯ
ไม่มีที่ไหนเป็นเขตห้ามสูบบุหรี่
มีการพ่นบุหรี่ใส่หน้ากันเป็นเรื่องปกติ ครูที่สอนหนังสืออยู่ในห้องเรียนก็สูบบุหรี่พ่นคลุ้งอยู่ในห้องเรียน
โฆษณาบุหรี่ในอดีต เคยใช้หมอเป็นพรีเซ็นเตอร์ เคยมีการสนับสนุนให้คนท้องสูบบุหรี่เพื่อให้คลอดลูกได้ง่าย
ความไม่รู้ ทำให้คนทั่วโลกไม่เห็นภัยอันตรายของบุหรี่
แต่เมื่อมีข้อมูลมากขึ้น มีการวิจัย และเห็นตัวอย่างของคนที่ได้รับอันตรายด้านสุขภาพจากการสูบบุหรี่ ทำให้ทัศนะคติของผู้คนเปลี่ยนไป เริ่มมีการห้ามสูบบุรี่ในสถานที่ต่างๆ
รัฐบาลของหลายประเทศกำหนดให้มีการติดฉลากเตือนถึงอันตรายของบุหรี่ไว้บนซอง
“ควันบุหรี่ ทำให้เป็นมะเร็ง 10 ชนิด”
“สูบแล้วถุงลมโป่งพองตาย”
“บุหรี่สูบแล้วปากเหม็น”
“สูบแล้วทรมานจนตาย”
“ควันบุหรี่จะทำร้ายลูก”
คำเตือนที่เห็นบนซองบุหรี่ ช่วยเตือนสติคนที่คิดจะสูบบุหรี่ให้ลดหรือเลิกได้ ไม่มากก็น้อย
นักเขียนและนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจากสหราชอาณาจักร Andrew Simms มีไอเดียใหม่ออกมารณรงค์ให้ติดคำเตือนบนรถยนต์ว่า มันอันตรายต่อสุขภาพ เหมือนกับที่มีการเตือนบนซองบุหรี่ในปัจจุบัน
ป้ายเตือนต่างๆ น่าจะส่งผลต่อพฤติกรรมของคนทั่วโลกได้
มีการยกตัวอย่างถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้คนในวันนี้ เทียบกับคำเตือนให้ป้องกันตัวเองจากการระบาดของโควิด-19 และทำให้คนจำนวนมากยอมปฏิบัติตามเพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อ
สื่อและป้ายเตือนมีอยู่ทั่วไป บอกให้ ใส่หน้ากาก ทิ้งระยะห่างทางสังคม ล้างมือบ่อยๆ ฯลฯ
คำเตือนต่างๆ ทำให้คนเปลี่ยนทัศนะคติได้จริง!
ในปัจจุบัน มีรถยนต์มากกว่าพันล้านคันทั่วโลก มันเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดมลพิษในอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล
ในช่วงที่หลายประเทศต้องล็อกดาวน์ มลพิษในอากาศทั่วโลกลดลงประมาณ 17% หมายถึงคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ที่ลดลงประมาณ 17 ล้านตันทุกวัน สาเหตุหลักเพราะผู้คนเดินทางด้วยรถยนต์น้อยลง
การเพิ่มขึ้นของมลพิษทางอากาศ เปรียบเทียบได้กับการระบาดของไวรัส เป็นสิ่งที่เราสามารถเตือนให้มีน้อยลงได้
ถึงเวลาที่ต้องติดป้ายเตือนกับรถทุกคนให้ตระหนักถึงอันตราย เหมือนที่มีการติดป้ายเตือนบนซองบุหรี่!!!
ตัวอย่างของป้ายเตือน เช่น
“มลพิษจากรถยนต์ ทำให้สภาพอากาศโลกเปลี่ยนแปลง”
“คนยุโรป ตายเพราะควันรถยนต์ปีละ 500,000 ราย”
“ควันรถ ทำให้เป็นมะเร็ง”
“ควันรถ ทำให้หัวใจวาย”
“ควันรถ เป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดสมอง”
“ควันรถ ทำให้เซ็กส์เสื่อม”
“ทุกครั้งที่ใช้รถยนต์ คุณมีส่วนสร้างมลพิษให้กับโลก”
Andrew Simms เจ้าของไอเดียติดป้ายเตือนบนรถยนต์เหมือนบุหรี่ มีข้อมูลเพิ่มเติมว่า ยางรถยนต์ก็มีส่วนอย่างมากที่สร้างมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม การเสื่อมสลายของยางรถที่วิ่งอยู่ ทำให้เกิดเศษยางเล็กๆหลุดออกมา เป็นไมโครพลาสติก ที่กระจายและไหลลงสู่แม่น้ำและมหาสมุทร เป็นอันตรายต่อสัตว์ และผู้คนที่นำสัตว์เหล่านี้มาเป็นอาหาร
ย้อนหลังไป 30-40 ปีก่อน ไม่มีใครตระหนักถึงอันตรายของบุหรี่ แต่วันนี้ความคิดก็เปลี่ยนแปลงกันได้
ความเลวร้ายของควันพิษจากรถยนต์ อาจเลวร้ายกว่าบุหรี่ และอาจได้เห็นคำเตือนสำหรับผู้ใช้รถยนต์ในอนาคต!