
Boris Johnson ประกาศว่า สหราชอาณาจักรกำลังจะเป็นผู้นำพลังงานลมโลก ทุ่มเงิน 160 ล้านปอนด์เพื่ออัพเกรดท่าเรือและโรงงานสร้างกังหันลม จะช่วยทำให้ประเทศเขียวยิ่งขึ้น
นอกจากทำให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้น ยังช่วยสร้างงานด้านการก่อสร้างเพิ่มขึ้นอีก 2,000 ตำแหน่ง และหน่วยสนับสนุนต่างๆอีกมากกว่า 60,000 คน
รัฐบาล UK ตั้งเป้าว่า ฟาร์มกังหันลมนอกชายฝั่งจะผลิตกระแสไฟฟ้าได้เพียงพอสำหรับบ้านทุกหลังในสหราชอาณาจักรภายในปี 2030 กำลังผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมจะเพิ่มขึ้นจาก 30 กิกกะวัตต์ เป็น 40 กิกกะวัตต์
เป้าหมายหลักที่รัฐบาลเกือบทุกทั่วประเทศทั่วโลกได้ลงนามที่กรุงปารีส คือ “Net Zero Emissions by 2050” อีกสามสิบปีจากวันนี้การปล่อยมลพิษต้องเป็นศูนย์
ทุกประเทศต้องลงมือทำจริงจังสู่เป้าหมายการสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นต่อโลกตั้งแต่วันนี้
อังกฤษ สหราชอาณาจักร กำลังอยู่ในเส้นทางของ “Green Industrial Revolution” เป็น การปฏิวัติอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
วันนี้เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า พลังงานแสงแดด และพลังงานลม เป็นพลังงานที่มีต้นทุนต่ำที่สุด ต่ำกว่าพลังงานที่ได้จากฟอสซิลทุกชนิด
โรงไฟฟ้าถ่านหินในหลายประเทศกำลังปิดตัวลง หลายแห่งมีกำหนดเลิกใช้ที่แน่นอนในอนาคต
บอรีส จอห์นสัน พูดเปรียบเปรยให้ฟังว่า..
“ยูเค กำลังจะเป็น ซาอุดิอาระเบียของพลังงานลม”
“ซาอุดิอาระเบีย เป็นตัวแทนของน้ำมัน ส่วน ยูเค เป็นของลม”