AI อเมริกา นำหน้า จีน เพียง 1-2 ปี ระบบจดจำใบหน้าจีน ดีกว่าอเมริกา จีนไม่สนใจการละเมิดสิทธิส่วนตัว

Eric Schmidt อดีตนายใหญ่ Google ส่งสัญญาณฉุกเฉินเตือนรัฐบาลสหรัฐฯว่า…

“เทคโนโลยี AI ของอเมริกา นำหน้าจีนอยู่เพียง 1-2 ปี ไม่ใช่ 5 หรือ 10 ปี”

Trade War และ Tech War ระหว่างอเมริกาและจีน ดูเหมือนจะแยกไม่ออก เบอร์หนึ่งอย่างอเมริกา คงไม่ยอมให้จีนมาแย่งตำแหน่งได้ง่ายๆ

อะไรที่คิดค้นได้ในโลกแล้วเปิดเป็น Open Source ที่ใครๆก็เอาไปพัฒนาต่อได้ จีนจะหยิบไปพัฒนาต่อและทำได้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำเทคโนโลยีไปใช้ประโยชน์ในเชิงการค้า

โลกในยุคที่ผ่านมา ประเทศไหนมีน้ำมันมากมีโอกาสรวยมาก เหมือนอย่างประเทศซาอุดิอาราเบียที่รวยได้เพราะน้ำมัน

ยุคนี้มีการเปรียบเปรยว่า ประเทศไหนมีข้อมูลมากกว่า ประเทศนั้นจะเป็นผู้ชนะ เพราะ AI ขับเคลื่อนได้ดีด้วยข้อมูลจำนวนมาก ประเทศจีนในวันนี้ได้ชื่อว่าเป็น ซาอุดิอาราเบียด้านข้อมูล

ข้อมูลที่อยู่ในรูปแบบดิจิทัล และคนจำนวนมากในประเทศจีน ช่วยทำให้การทำงานของ AI มีศักยภาพดีขึ้น และข้อสำคัญที่ทำให้จีนแตกต่างจากโลกตะวันตก คือ คนในประเทศจีนไม่คำนึงถึงสิทธิความเป็นส่วนตัวมากนัก ภาครัฐและเอกชนสามารถนำข้อมูลส่วนตัวของคนจีนไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลายอย่างไร้ปัญหา

ฟีล์มเอกซเรย์, MRI, CT SCAN หรือข้อมูลของผู้ป่วยในอดีตและปัจจุบันจำนวนมากในประเทศจีน เป็นแหล่งข้อมูลสุดยอดสำหรับ AI ที่ใช้ในการวิเคราะห์โรคร้ายต่างๆ

AI ช่วยบอกให้หมอรู้ว่า ใครมีโอกาสเป็นโรคตั้งแต่ยังไม่เป็นโรค หรือตรวจพบโรคได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรก ทำให้การรักษาผู้ป่วยมีประสิทธิภาพดีขึ้น

สิ่งที่ได้เรียนรู้จาก AI ที่ใช้ฐานข้อมูลคนป่วยในประเทศจีน สามารถใช้เป็นแนวทางการรักษาคนป่วยทั่วโลก

ระบบดิจิทัลทางด้านการเงิน กล้องวงจรปิด เก็บข้อมูลประชากรจีนได้ทั่วประเทศ ทำให้ AI ระบบจดจำใบหน้าจีนในวันนี้มีประสิทธิภาพดีที่สุดในโลก

เอริก ชมิดต์ อดีต CEO กูเกิล วันนี้มีตำแหน่งเป็น ประธานคณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติด้านปัญญาประดิษฐ์ ของสหรัฐอเมริกา ให้ความเห็นกับ Senate Armed Service Committee เกี่ยวกับเทคโนโลยีเกิดใหม่และผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติว่า…

“รัฐบาลสหรัฐฯ จะต้องให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุนในบางรูปแบบ และเราจำเป็นต้องปล่อยให้ภาคเอกชนสร้างสิ่งเหล่านั้นขึ้นมา และทำให้มันประสบความสำเร็จ”

“ภาคเอกชนเป็นจุดแข็งที่สำคัญของอเมริกา เราขับเคลื่อนได้เร็วและไปได้ทั่วโลก เร็วกว่าที่รัฐบาลไหนจะสามารถทำได้”

“เราต้องการแพลตฟอร์มระดับโลก หรือไม่ก็ต้องถูกบังคับให้ใช้แพลตฟอร์มของจีน ซึ่งจะกลายเป็นหายนะ”

วิถีชีวิตของคนทั่วโลกในยุคนี้ จะดำเนินชีวิตตามสิ่งที่ถูกกำหนดอยู่ในแพลตฟอร์มต่างๆที่นักเทคโนโลยีสร้างขึ้น เอริก ชมิดต์ กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า..

“จะมีชุดแพลตฟอร์มทางเทคโนโลยีเกิดขึ้นอีกมาก แต่จะเกิดขึ้นในประเทศจีนเป็นที่แรก เว้นแต่ว่าเราจะมีความพยายามร่วมมือกันมากขึ้นในอเมริกา”

“ผมต้องการดูรายการของแพลตฟอร์มเทคโนโลยีหลักที่เราเห็นพ้องร่วมกันว่าจะเกิดขึ้น และสร้างมันโดยใช้ค่านิยมแบบตะวันตก และกำหนดให้เป็นแพลตฟอร์มที่พันธมิตรทั่วโลกใช้ของเรา”

แพลตฟอร์มระดับโลกจากจีน เริ่มมีให้เห็นมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และหลายๆแพลตฟอร์มดีกว่าของตะวันตกอย่างชัดเจน

แพลตฟอร์มระบบสั่งอาหารที่ดีที่สุดก็มีต้นแบบจากจีน

ซุปเปอร์แอปอย่าง WeChat มีประสิทธิภาพดีจนหาใครเทียบได้ยาก

Ant Finance ที่ครองโลกการเงินในจีนวันนี้ กำลังจะครองโลก

เทคฯจีนยังอ่อนด้อยเรื่องความคิดสร้างสรรค์สร้างสิ่งใหม่ๆที่เป็นต้นแบบ แต่ถ้าเป็นการประยุกต์เอาสิ่งที่คิดค้นใหม่ๆมาใช้ จีนทำได้ดีมาก

จีน ขอให้ เซ็งลี้ฮ้อ เอาไว้ก่อน!!!

Ex-Google CEO Eric Schmidt stresses ‘urgency’ in countering China on artificial intelligence as US-China tech war continues (yahoo.com)

Leave a Reply