
.
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ติดตามอ่านเรื่องดราม่าของหมอต้วง อดีตกัปตันการบินไทย เลยทำให้รู้สึกมีอารมณ์ร่วม และอยากแบ่งปันประสบการณ์ส่วนตัวที่มีกับสายการบินไทยบ้าง
ขณะนี้การบินไทยอยู่ระหว่างแผนฟื้นฟูกิจการจากการล้มละลายตามคำสั่งศาล ต้องเจรจาเจ้าหนี้ ขายสินทรัพย์ และลดคนทำงาน
หมอต้วง หรือ กัปตันต้วง นายแพทย์กรพรหม แสงอร่าม ศัลยแพทย์หัวใจและทรวงอก วันนี้เป็นอดีตกัปตันการบินไทย แม้จะผ่านการประเมินที่สามารถทำงานเป็นกัปตันของการบินไทยต่อไปได้ แต่ได้ตัดสินใจลาออก เพราะไม่ชอบใจเรื่องการประเมินการสั่งน้ำมันที่ได้คะแนน 1.13 จาก 10 คะแนน
กัปตันต้วงเคยมีประสบการณ์เรื่องน้ำมันที่ทางฝ่ายบริหารจัดเตรียมมาให้ แต่มันไม่พอสำหรับยามฉุกเฉิน และเกือบจะประสบเหตุเฉียดตายยกลำ ทำให้หมอต้วงตรวจสอบเรื่องปริมาณน้ำมันเป็นพิเศษ และมีการสั่งน้ำมันมากกว่าปกติทุกครั้ง และกลายเป็นเหตุผลที่ทำให้ได้คะแนนเรื่องนี้ต่ำมากๆ
หมอต้วงยังเป็นหมอผ่าตัดที่ทำงานแบบอาสาสมัครในปัจจุบัน แต่เป็นคุณหมอที่มีใจรักในการบิน และเป็นบุตรชายของอดีตพิธีกรทีวีและนักการเมืองชื่อดัง กรรณิกา ธรรมเกษร
คุณหมอบอกว่า เป็นคนที่เคยรักคุณเท่าฟ้ามาก่อน ซึ่งมันตรงกับความรู้สึกส่วนตัว ผมก็เคยรักคุณเท่าฟ้ามาก่อนเหมือนกัน!!!
ผมเคยเป็นลูกค้าผู้ซื่อสัตย์ของสายการบินไทย และเป็นสายการบินตัวเลือกแรกที่จะต้องใช้ทุกครั้งในอดีต
เวลาที่เดินทางไกลๆไปยุโรปหรืออเมริกากับสายการบินไทย ตอนอยู่บนเครื่องได้เจอกับพนักงานและกัปตันที่พูดคุยกับเราด้วยภาษาไทย ทำให้รู้สึกเหมือนว่ายังอยู่เมืองไทย ได้กินอาหารที่คุ้นเคยต่ออีกหลายมื้อ
TG เป็นรหัสย่อของชื่อไฟลท์สายการบินไทย เคยมีคนล้อเลียนอยู่บ่อยๆว่า ย่อมาจาก Tomorrow Go เพราะมีคนเจอเรื่องล่าช้าทั้งขาเข้าและขาออกอยู่บ่อยมาก
ผมก็เคยเจอปัญหาเรื่องนี้เหมือนกัน การล่าช้าของเที่ยวบินทำให้การนัดหมายปลายทางผิดแผน มีปัญหากับคนที่มารอรับปลายทาง แต่ที่แย่ที่สุด คือ ปัญหาที่เกิดกับการต่อเครื่อง การล่าช้าทำให้การต่อเครื่องไปอีกจุดหมายมีปัญหา เพราะเครื่องบินที่ล่าช้า อาจทำให้ต่อเครื่องไม่ทัน
เวลาได้ยินใครบอกว่า TG มาจาก Tomorrow Go ผมมีประสบการณ์ส่วนตัวที่เห็นด้วย 100%
เมื่อประมาณสามสิบปีก่อน ระหว่างรอเครื่องสายการบินไทยกลับกรุงเทพฯจาก ซูริค สวิตเซอร์แลนด์ ช่วงที่รอขึ้นเครื่องมีประกาศเรื่องดีเลย์ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เกิดขึ้นเป็นประจำอยู่แล้ว รออยู่นาน 4-5 ชั่วโมง ก็ไม่ได้ไป ในที่สุดมีการประกาศว่าต้องเลื่อนการเดินทางออกไปอีกหนึ่งวัน
ผมไม่มีทางเลือก เพราะซื้อตั๋วแบบ Economy เปลี่ยนเที่ยวบินไม่ได้ ต้องอยู่ที่ซูริคต่อเพื่อรอขึ้นเครื่อง TG ไฟลท์เดิม ผู้โดยสารทุกคนผ่านพิธีการตรวจคนเข้าออกประเทศแล้ว แต่เมื่อเดินทางไม่ได้ ทางสายการบินก็เลยจัดห้องพักและอาหารให้อยู่ในซูริคต่อ แต่ไปไหนไม่ได้ ต้องอยู่ในสภาพเหมือนนักโทษ ได้พักในโรงแรมฟรี กินอาหารฟรี ครบสามมื้อ
พอวันรุ่งขึ้นมีรถมาส่งที่สนามบินซูริคเพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ อีกครั้ง…. นั่งรออยู่ที่สนามบินอีก 3-4 ชั่วโมง ก็ยังไม่ได้กลับบ้าน! ทางการบินไทยแจ้งว่าเครื่องบินมีปัญหาเรื่อง Navigator หรือ ระบบนำทาง ต้องซ่อมแซมต่ออีก 1 วัน ทำให้ผมได้อยู่ต่อในโรงแรมเดิมอีก 1 วัน มีรถพาไปขังอยู่ที่เดิม
ได้พักฟรี กินอาหารฟรี แต่คงไม่มีใครสนใจอยากอยู่ในสภาพอย่างนั้น ในสมัยก่อนไม่มีอินเตอร์เน็ต ไม่มีอะไรให้ทำ มีแต่ทีวีให้ดู แต่มีช่องพิเศษในทีวีเป็นหนังผู้ใหญ่ ใครอยากดูต้องจ่ายเงินเอง
พอวันรุ่งขึ้น ได้กลับมาที่สนามบินซูริคอีกครั้ง มีความมั่นใจมากว่าคราวนี้คงได้กลับเมืองไทยแน่ๆ! ….แต่มันแย่กว่าที่คิด!
ดีใจมากที่เครื่องของสายการบินไทย จากซูริคได้บินกลับกรุงเทพฯเสียที!
หลังจากเครื่องบินขึ้นจากสนามบินซูริคซักพัก กัปตันประกาศเป็นภาษาอังกฤษและภาษาไทยว่า….เครื่องมีปัญหา!!!
กัปตันบอกว่ามีปัญหาที่ระบบ Hydraulic ล้อเครื่องบินที่หุบเข้าหุบออกทำงานผิดปกติ และแจ้งให้ผู้โดยสารทุกคนทราบว่าต้องกลับไปลงจอดที่สนามบินซูริค และเป็นการลงจอดแบบฉุกเฉิน!!!
กัปตันแจ้งให้ทราบถึงขบวนการลงจอดแบบฉุกเฉินว่า ต้องปล่อยน้ำมันออกจากตัวเครื่อง ผมมองไปที่หน้าต่างเห็นน้ำมันไหลออกจากถังน้ำมัน มันคงมีมูลค่านับล้าน คนที่อยู่บนเครื่องเริ่มกระสับกระส่าย คนไทยส่วนใหญ่ยังดูค่อนข้างสงบเก็บความรู้สึกไว้ในใจ หรืออาจคิดว่ามันคงไม่มีอะไรร้ายแรงตามที่กัปตันแจ้งให้ทราบว่า เป็นขั้นตอนปกติของการลงจอดฉุกเฉิน
ฝรั่งหลายคนเริ่มสวดมนต์ ผมยังมองโลกในแง่ดีว่า มันคงไม่เป็นอะไร ทุกอย่างน่าจะผ่านพ้นไปด้วยดี…
แต่พอมองออกมานอกหน้าต่างเครื่อง เห็นรถดับเพลิงจอดรอเรียงรายอยู่สองข้างทางลานบิน เลยเริ่มรู้สึกใจเสียเหมือนกัน
แต่ก็ยังโชคดีที่ลงจอดได้ด้วยดี และเอาเรื่องนี้กลับมาเล่าให้ฟังได้ในวันนี้
พวกฝรั่งที่ต้องการมาเที่ยวเมืองไทย และผู้โดยสารทุกคนตบมือดีใจทั้งลำที่รอดชีวิตจากการลงจอดฉุกเฉินครั้งนั้นได้
มีผู้โดยสารฝรั่งหลายรายตัดสินใจไม่เดินทางกับเที่ยวบินนี้อีกแล้ว แต่ผมไม่มีทางเลือก ถ้าต้องการกลับบ้านต้องรอกลับกับสายการบินไทย
กลับถึงซูริค ได้อยู่ฟรีในโรงแรมเดิมอีก 1 วัน และได้กลับบ้านจริงๆเสียทีในวันถัดไป
สรุปแล้ว กลายเป็น Tomorrow Go, Tomorrow Go, Tomorrow Go รวม 3 ครั้ง!!!
นั่นเป็นประสบการณ์ครั้งสุดท้ายของผมที่เดินทางกับสายการบินไทย
พอเริ่มใช้บริการของสายการบินอื่น จึงได้เห็นข้อเปรียบเทียบที่แตกต่างหลายเรื่อง เช่น ราคา การล่าช้าของเที่ยวบิน เที่ยวบินที่มีความหลากหลายมากกว่า ที่นั่งบนสายการบินหลายแห่งมีขนาดใหญ่กว่า ฯลฯ
ผมไม่รู้ว่า สามสิบปีที่ผ่านมาซึ่งผมไม่เคยใช้บริการของสายการบินไทยอีกเลย มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง แต่การได้ยินข่าวเรื่องการขาดทุน และล้มละลายในปีที่ผ่านมา ก็ไม่รู้สึกแปลกใจอะไร
ผมอาจเป็นคนไทยในหลายๆคนที่มีความรู้สึกเหมือนๆกันว่า…
“ผมเคยรักคุณเท่าฟ้า….”
https://hilight.kapook.com/view/212116
.