หุ่นยนต์ตัวนี้ชื่อ Pepper เป็นของ SoftBank จากญี่ปุ่น มันจำหน้าคนได้ เวลามีคนเดินเข้าใกล้มัน เจ้า Pepper สามารถทักทายชื่อของคนได้ มันรู้ด้วยว่าคนนั้นกำลังมีอารมณ์อย่างไร
เปปเปอร์ เป็นหุ่นยนต์ช่างสังคมตัวแรกของโลก ซึ่งสามารถจดจำใบหน้าและอารมณ์พื้นฐานของมนุษย์
มันตอบโต้กับมนุษย์ด้วยการสนทนา เวลาที่คนคุยกับมัน เสียงการถามและการตอบ จะถูกแปลงเป็นข้อความบนหน้าจอที่อยู่บริเวณหน้าอกของมัน หรือจะสื่อสารกับมันผ่านทางจอทัชสกรีนก็ได้
ในปัจจุบัน มีบริษัทและโรงเรียนต่างๆทั่วโลก ซื้อ Pepper ไปใช้แล้วมากกว่า 2,000 ตัว มันทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยฝ่ายต้อนรับ แจ้งข้อมูลและแนะนำแขกที่มาเยี่ยมชมด้วยวิธีการที่น่าสนใจ
ในยุคที่โควิด-19 กำลังระบาด เปปเปอร์ ช่วยรับมือการต้อนรับกับผู้คนได้เป็นอย่างดี ลดโอกาสการแพร่เชื้อไวรัสระหว่างคนสู่คน
เปปเปอร์ สูง 120 เซนติเมตร มันรับรู้สภาพแวดล้อมได้ เข้าใจอารมณ์ความรู้สึกพื้นฐานต่างๆของคนที่มันกำลังคุยด้วย หุ่นยนต์ออกแบบให้ดูโค้งมน คนที่เห็นมันจะรู้สึกว่ามันเป็นมิตร ไม่มีอันตราย
วันนี้กำลังมีคนทำให้ Pepper ดูเป็นมิตรเพิ่มขึ้นไปอีก
นักวิจัยชาวอิตาเลียนจากมหาวิทยาลัยปาแลร์โม่ ได้สร้างรูปแบบการพูดภายในตามสถาปัตยกรรมการรับรู้ของมัน โดยให้หุ่นยนต์ออกเสียงพูดที่แสดงให้เห็นขบวนการตัดสินใจภายในของมัน
เหมือนเวลามนุษย์ใช้ความคิดอยู่ภายในเมื่อได้รับคำสั่งหรือได้ยินคำพูดของคนอื่น
มนุษย์ไม่พูดความคิดของตัวเองให้ใครได้ยิน แต่ เปปเปอร์ จะพูดให้คนได้ยิน
Pepper จะแสดงกระบวนการตัดสินใจของมันออกมาเป็นคำพูด ทำให้มนุษย์เข้าใจแรงจูงใจ และการตัดสินใจของหุ่นยนต์ได้ดีขึ้น
ในการทดลองครั้งหนึ่ง นักวิจัยขอให้ เปปเปอร์ จัดโต๊ะอาหารตามกฎมารยาทที่ตรงกับการเข้ารหัสไว้ในหุ่นยนต์ เมื่อมันพูดจากภายในที่เป็นความคิดของมัน ทำให้มนุษย์เข้าใจว่ามันกำลังทำอะไร หากรู้ว่าหุ่นยนต์สับสนกับคำสั่งไหน ก็สามารถแก้ไขได้ทันที
มีการทดลองอีกครั้งที่นักวิจัยแกล้งสั่งให้ เปปเปอร์ วางผ้าเช็ดปากในตำแหน่งที่ไม่ถูกต้อง หุ่นยนต์รู้ว่าเป็นตำแหน่งที่ไม่ถูกต้อง มันพูดทวนคำสั่งเพื่อขอยืนยันความถูกต้อง แล้วพูดกับตัวเองเป็นเสียงพูดออกมาให้คนได้ยินว่า….
“อืม สถานการณ์นี้ทำให้ฉันหงุดหงิด ฉันจะไม่ยอมทำผิดกฎ แต่ฉันจะทำให้เขาไม่พอใจไม่ได้ ดังนั้นฉันต้องทำในสิ่งที่เขาต้องการ”
แม้ว่ามันจะมีความสับสนต่อคำสั่ง มันรู้ว่าผิดตำแหน่ง แต่มันก็เอาผ้าเช็ดปากไปไว้ในตำแหน่งที่คนต้องการ มันจัดลำดับความสำคัญคำขอของคนให้คนได้ยิน
การได้ยินหุ่นยนต์คิด ทำให้หุ่นยนต์ดูน่าไว้วางใจขึ้น และในกรณีที่มีความสับสนในการสื่อสารระหว่างกัน เมื่อเราได้ยินสิ่งที่หุ่นยนต์กำลังคิด จะทำให้การสื่อสารระหว่างมนุษย์กับหุ่นยนต์ มีประสิทธิภาพมากขึ้น สับสนน้อยลง
การโปรแกรมสั่งงานหุ่นยนต์ในลักษณะนี้ จะช่วยทำให้คนเข้าใจความสามารถและข้อจำกัดของหุ่นยนต์มากขึ้น
ในอนาคตอันใกล้ หุ่นยนต์จะมีบทบาทสำคัญในการทำงานทุกอย่าง และเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนทั่วโลก