ตามกฎหมายไทย ชาวต่างชาติสามารถเป็นเจ้าของคอนโดแต่ละแห่งได้ไม่เกิน 49% ของจำนวนพื้นที่ในแต่ละคอนโด โดย 51% ต้องถือครองโดยคนไทย
ชาวต่างชาติซื้อคอนโดจากทั่วประเทศไทยมีประมาณ 1.4 ล้านหน่วย โดยมีสัดส่วนมากกว่าครึ่ง ถือครองโดยคนจีน
ชาวจีนเป็นชาวต่างชาติ 52% ที่เป็นเจ้าของคอนโดเกือบ 730,000 หน่วยทั่วประเทศไทย
อันดับสองมีน้อยกว่าอันดับหนึ่งเกือบสิบเท่า คือ ชาวรัสเซีย เป็นเจ้าของคอนโดมากกว่า 76,000 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 5.4%
ฝรั่งเศสเป็นอันดับสามคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 4% เป็นเจ้าของคอนโดในไทย 57,500 หน่วย สหราชอาณาจักรมีสัดส่วนประมาณ 4% คือ 56,000 หน่วย
ชาวต่างชาติที่มีคอนโดในไทยมากเป็นอันดับห้า คือ อเมริกา 41,767 หน่วย
อันดับหกถึงสิบ เป็นเจ้าของคอนโดในไทยประเทศละประมาณ 30,000 หน่วย คือ เยอรมัน ญี่ปุ่น อินเดีย ไต้หวัน และ ออสเตรเลีย
ถ้าเทียบกับเมืองใหญ่ๆของโลก กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยา ของไทย ยังเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่มีราคาต่ำกว่าและคุ้มค่ากว่าการไปลงทุนที่อื่นอย่างมาก
ประเทศไทยมีนายหน้าอสังหาฯจำนวนมากที่เน้นการทำงานกับลูกค้าชาวต่างชาติ แม้ว่าช่วงนี้จะมีชาวต่างชาติในประเทศไทยลดลงเพราะโควิด-19 แต่ในระยะยาวแล้ว อาชีพนายหน้าขายคอนโดให้ชาวต่างชาติยังมีอนาคตดี
อาชีพนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ เป็นอาชีพอิสระที่สงวนไว้ให้คนที่มีสัญชาติไทยเท่านั้น
ช่วงนี้ ประเทศต่างๆทั่วโลกยังอยู่ในช่วงหยุดชะงัก ไม่ค่อยมีการเดินทางระหว่างประเทศ ประเทศไทยไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวเข้ามานานกว่าหนึ่งปีครึ่งแล้ว หากเป้าหมายการเปิดประเทศภายใน 120 วัน เป็นไปตามแผนที่วางไว้ ปลายปี 2021 หรือต้นปี 2022 การท่องเที่ยวไทยจะได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง แต่จะดีเท่าเดิมหรือไม่ ยังประเมินได้ลำบาก
คำตอบอยู่ที่การระบาดของโควิด-19 ถ้ามีวัคซีนที่ป้องกันการกลายพันธุ์ของไวรัสได้ มียารักษาที่มีประสิทธิภาพ ทุกอย่างจะเริ่มดีขึ้น
คนจีนที่เป็นเจ้าของคอนโดจำนวนมาก และคนจีนที่อยากมาอยู่ประเทศไทย จะกลับมาไทยแน่ๆ
ประเทศไทย ยังเป็นจุดหมายอันดับแรกๆของชาวต่างชาติทั่วโลก การท่องเที่ยว และธุรกิจที่เกี่ยวโยงกับชาวต่างชาติซึ่งรวมถึงอสังหาริมทรัพย์ จะต้องดีขึ้น
แต่ปัญหาที่เป็นอยู่วันนี้ คือ จะมีใครอยู่รอดได้เห็นวันสีทองผ่องอำไพในประเทศไทยบ้าง?!?