รายงานวิจัยล่าสุดจาก India’s Council on Energy, Environment and Water (CEEW) และ Carbon Tracker ได้ข้อสรุปว่า…
พลังงานทดแทนอย่าง โซลาร์ และ ลม เป็นทางเลือกที่มีต้นทุนถูกที่สุดสำหรับการผลิตไฟฟ้าในตลาด 90% ของโลก
ประเทศกำลังพัฒนาที่มีความต้องการแหล่งพลังงานไฟฟ้าเพิ่มเติม สามารถ Leapfrog หรือกระโดดข้ามไปใช้พลังงานทดแทนที่มีต้นทุนต่ำได้เลย ไม่จำเป็นต้องเริ่มลงทุนกับพลังงานฟอสซิลซึ่งมีต้นทุนสูงกว่า
มีการวิเคราะห์เพิ่มเติมว่า แหล่งพลังงานฟอสซิลที่ใช้สำหรับการผลิตไฟฟ้าในประเทศต่างๆทั่วโลก จะกลายเป็นต้นทุนสูญเปล่าที่ต้องถูกทิ้งร้างในอนาคต เพราะต้นทุนการผลิตไฟฟ้าที่ใช้พลังงานฟอสซิลไม่สามารถแข่งขันกับพลังงานทดแทน!!!
นับเฉพาะประเทศจีน ภายในปี 2030 จะต้องสูญเงินมากถึง 16,000 ล้านดอลลาร์ หากยังคงผลักดันสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหิน
กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาซึ่งมีระบบเศรษฐกิจของตลาดเกิดใหม่ หรือ Emerging Market จะได้ประโยชน์อย่างมาก สามารถสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ๆด้วยพลังงานทดแทนได้ทันที ไม่ต้องแบกรับกับโรงไฟฟ้าเก่าจำนวนมากที่ยังใช้พลังงานถ่านหินเหมือนอย่างประเทศที่พัฒนาแล้วในหลายประเทศ
ตลาดเกิดใหม่สามารถประหยัดเงิน และช่วยรักษาชีวิตคน พลเมืองในประเทศไม่ต้องตายหรือเจ็บป่วยจากมลพิษทางอากาศจากโรงไฟฟ้าพลังงานฟอสซิล
นักวิจัยได้ใช้ประเทศอินเดียซึ่งเป็นตลาดเกิดใหม่เป็นตัวอย่างเปรียบเทียบ ทำให้เห็นความเลวร้ายของมลพิษทางอากาศ และประโยชน์ที่ได้รับจากการสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่โดยใช้พลังงานทดแทน
นับตั้งแต่ปี 2010 ถึงปัจจุบัน อินเดียใช้พลังงานโซลาร์เพิ่มขึ้นเกือบ 5 เท่า จาก 20 กิกกะวัตต์ เป็น 96 กิกกะวัตต์
เมื่อนับรวมกับโครงการพลังงานน้ำขนาดใหญ่แล้ว ขณะนี้อินเดียมีการใช้พลังงานหมุนเวียนเท่ากับ 37% ของการผลิตไฟฟ้าทั้งหมดในประเทศ และยังมีโอกาสขยายการผลิตไฟฟ้าสำหรับประชากรอินเดียอีกประมาณ 770 ล้านคนที่ยังมีปัญหาขาดแคลนไฟฟ้า
ประเทศพัฒนาแล้วส่วนใหญ่ กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านจากพลังงานฟอสซิลเป็นพลังงานทดแทน เพื่อบรรลุเป้าหมายลดโลกร้อนตามข้อตกลงที่กรุงปารีสซึ่งเกือบทุกประเทศได้ร่วมลงนามเอาไว้
สถาบันการเงินใหญ่ๆของโลกหลายแห่ง มีนโยบายไม่สนับสนุนการเงินให้กับโครงการที่จะเอาเงินไปสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานฟอสซิล ในทางตรงกันข้ามจะสนับสนุนโครงการพลังงานไฟฟ้าทดแทน
วันนี้มีตัวเลขเปรียบเทียบความคุ้มค่าอย่างชัดเจนแล้วว่า พลังงานสะอาดมีต้นทุนต่ำกว่าพลังงานสกปรก
ประเทศที่ยังสนับสนุนพลังงานถ่านหิน อาจจัดอยู่ในส่วนน้อยของโลก 10% ที่พลังงานฟอสซิลยังมีต้นทุนต่ำกว่า หรือไม่ก็อาจเป็นผู้มีอำนาจที่มีใจสกปรก คอรัปชันเพื่อส่วนตัว และไม่สนใจว่าพลเมืองในประเทศจะต้องเจอกับมลพิษอะไร!?!
https://japantoday.com/category/tech/fossil-fuel-power-demand-has-‘peaked-worldwide’-analysis