ดร.ไคฟู ลี เป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ทำงานเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์มานานเกือบสี่สิบปี เป็นอดีตผู้บริหาร Microsoft, Apple, Google และวันนี้เป็นซีอีโอ Sinovation Ventures ซึ่งสนับสนุนเงินทุนให้กับสตาร์ทอัพทั่วโลก มีสำนักงานอยู่ในประเทศจีน
เขาเป็นผู้เขียนหนังสือ Best Seller “AI SUPERPOWERS” และวันนี้มีหนังสือเล่มใหม่ที่เพิ่งตีพิมพ์ คือ “AI 2041”
ถ้าอยากรู้ว่า AI จะเป็นอย่างไรในอนาคต ดร.ไคฟู ลี เป็นคนที่จะคาดการณ์ได้ดีที่สุด เขาเป็นคนที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับ AI โดยตรง เป็นนักลงทุนที่พิจารณาให้การสนับสนุนสตาร์ทอัพต่างๆที่ใช้เทคโนโลยี AI ในการขับเคลื่อนธุรกิจ
เนื้อหาทั้งหมดที่นำเสนอคราวนี้เป็นความคิดเห็นของ ดร.ไคฟู ลี เกี่ยวกับ AI ที่มีผลกระทบต่อแนวทางการทำงานของมนุษย์ทั้งที่เป็นอนาคตใกล้ๆ และไกลๆ
ภายใน 20 ปีจากวันนี้ ข้อมูลที่มีอยู่ในโลกเกือบทั้งหมด จะกลายเป็นดิจิทัล ทำให้สามารถใช้ AI มาช่วยทำงาน ช่วยตัดสินใจ และเพิ่มประสิทธิภาพของงานได้ จะทำได้ดีกว่าที่ใช้คนทำอย่างเทียบกันไม่ได้
AI และระบบออโตเมชั่น จะเข้ามาแทนที่คนทำงานคอปกสีน้ำเงินหรือผู้ใช้แรงงานส่วนใหญ่ ทำให้ต้นทุนการผลิตของสินค้าลดลงถึงจุดต่ำสุด
หุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์จะเข้าควบคุมการผลิต การส่งสินค้า การออกแบบ และการทำการตลาดส่วนใหญ่ของสินค้า
ประเทศที่มีค่าแรงต่ำ ไม่สามารถดึงดูดการลงทุนได้อีกต่อไป เพราะ AI ที่เป็นสมองของหุ่นยนต์มีต้นทุนต่ำกว่าแรงงานคนในทุกประเทศ
แม้แต่งานบ้านเกือบทุกอย่าง หุ่นยนต์ผู้ช่วยแม่บ้านจะเป็นผู้ทำงานแทนคน มันเรียนรู้วิธีการทำงานได้เอง ซ่อมแซมตัวเองก็ได้
ในอนาคต บ้านและอพาร์ตเมนต์ส่วนใหญ่ จะได้รับการออกแบบโดย AI โดยมีโมเดลสำเร็จรูปเหมือนการประกอบเลโก้โดยหุ่นยนต์ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนที่อยู่อาศัยลงอย่างมาก
ในระดับที่เล็กลง เครื่องพิมพ์สามมิติจะผลิตสินค้าที่ซับซ้อนหรือปรับแต่งได้ เช่น ฟันปลอม ขาเทียม ทำให้มีต้นทุนการผลิตต่ำ ไม่จำเป็นต้องผลิตครั้งละมากๆ
งานที่ทำผ่านแอปพลีเคชั่นทั้งหมด AI สามารถทำงานแบบ 24/7 ทำงานได้ตลอดเวลา ไม่เคยหยุดงาน ไม่เจ็บป่วย ไม่บ่น ไม่ต้องจ่ายค่าแรง
AI ช่วยลดต้นทุนการผลิตในส่วนที่เกี่ยวข้องกับแรงงานของสินค้าส่วนใหญ่ คิดแล้วเป็นเงินที่บวกจากต้นทุนวัสดุเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
คนทำงานคอปกขาว หรือพวกนั่งโต๊ะทำงานก็มีความเสี่ยงสูง AI จะเริ่มจากการเป็นผู้ช่วยคนทำงานที่ต้องใช้ ความรู้ ความคิด และในระยะยาวจะเข้ามาทำงานแทนคนทั้งหมด
AI สามารถ เรียนรู้ รวบรวม เรียบเรียง จดจำ วิเคราะห์ ได้เหนือกว่ามนุษย์
AI สามารถช่วยทำงานเป็นผู้ช่วย นักวิเคราะห์วิจัย นักกฎหมาย และนักข่าว โดยการค้นหาข้อมูลที่มีอยู่ทุกที่บนโลก ส่งให้ผู้เชี่ยวชาญที่เป็นมืออาชีพไปขบคิด เพื่อแก้ปัญหาในเชิงกลยุทธิ์ที่ซับซ้อนมากขึ้น
งานที่เคยใช้คนทำ แต่เป็นงานรูทีนหลายอย่างจะถูกแทนที่โดย AI ภายใน 5-10 ปีจากปัจจุบัน เช่น งานบริการลูกค้า การตลาดทางโทรศัพท์ การบัญชีระดับต้น
สรุปแล้ว คือ งานที่ทำกันเป็นประจำ มีกรอบการทำงานที่แน่นอนชัดเจน สามารถออกแบบเป็นระบบการทำงานอัตโนมัติ AI จะเข้ามาทำงานแทนคนได้ทั้งหมด
มีบริษัทบางแห่งมีคอมพิวเตอร์ตั้งอยู่ในห้องหลายร้อยตัวโดยไม่มีคนอยู่หน้าคอม แต่ให้ AI ควบคุมการทำงานทั้งหมด
AI เป็นกระแสที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโลก ถึงขั้นเป็น AI Bubble
แต่โดยภาพรวม น่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เป็นเชิงบวกต่อโลก