ByteDance, SpaceX, SHEIN สตาร์ทอัพระดับ Hectocorn ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก

หนทางสู่ความสำเร็จสตาร์ทอัพ ไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด

อุปสรรคใหญ่อยู่ที่ “การหาเงิน” และ “ความต้องการของตลาด”

สตาร์ทอัพ 9 ใน 10 จะพบกับความล้มเหลว

SBINSIGHTS เปิดเผยรายชื่อสตาร์ทอัพ Unicorn ซึ่งหมายถึงบริษัทส่วนบุคคลที่มีมูลค่าตั้งแต่ $1 พันล้านขึ้นไป นับถึงเดือน กรกฎาคม 2022 พบว่ามีทั้งสิ้น 1,187 แห่ง มูลค่าบริษัทรวมกันแล้วเท่ากับ $3,857 พันล้าน

สำหรับสตาร์ทอัพที่มีมูลค่าตั้งแต่ $10 พันล้านขึ้นไปซึ่งเรียกว่า Decacorn วันนี้มีรวมทั้งสิ้น 56 แห่ง

ส่วนสตาร์ทอัพที่มีมูลค่าตั้งแต่ $100 พันล้านขึ้นไปเรียกว่า Hectocorn วันนี้มีอยู่เพียง 3 แห่ง คือ

1. ByteDance = $140B

2. SpaceX = $127B

3. SHEIN = $100B

สตาร์ทอัพยูนิคอร์นหลายแห่ง สามารถจดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชนได้แล้ว แต่ยังไม่ได้ทำ หรืออาจไม่ต้องการทำ

ByteDance จากประเทศจีน คือ บริษัทแม่ของ TikTok ซึ่งกำลังป่วนโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ของโลก และอาจกลายเป็นแพลตฟอร์มที่มีคนเป็นสมาชิกมากที่สุดของโลกในอนาคต คลิปสั้นๆของ TikTok แย่งเวลาผู้ใช้ YouTube, Facebook ไปได้มาก และ TikTok ยังกลายเป็นเครื่องมือค้นหาที่มีคนรุ่นใหม่จำนวนมากเลือกใช้แทน Google Search

SpaceX ของ อีลอน มัสก์ คนที่รวยที่สุดในโลก ถ้าต้องการเป็นบริษัทมหาชนเมื่อไหร่ ก็คงมีนักลงทุนทั่วโลกพร้อมเข้าซื้อหุ้นแน่ ในอนาคตจะเป็นบริษัทที่พามนุษย์โลกไปอยู่บนดาวอังคาร วันนี้ SpaceX ได้ค่าจ้างจากนาซ่าและบริษัทหลายแห่งที่ต้องการส่งดาวเทียมขึ้นไปในอวกาศ โครงการเดินทางด้วยจรวดสามารถย่นเวลาการเดินทางข้ามทวีปไปได้หลายเท่าตัว และยังมีโครงการสตาร์ลิงก์ซึ่งเป็นผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตสู่ทุกพื้นที่บนโลก

SHEIN ของจีนจาก เซินเจิ้น เพิ่งเลื่อนชั้นเป็น Hectocorn เมื่อไม่นานนี้เอง จัดอยู่ในอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซ โดย SHEIN เรียกตัวเองว่าเป็น Global Fashion and Lifestyle E-retailer ที่ต้องการให้ความสวยความงามของแฟชั่นสามารถเข้าถึงคนทุกคนบนโลก มีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเรื่อง Supply Chain ลดการสูญเสียด้านสินค้าคงคลังไปได้มาก เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าไปได้ทั่วทั้งโลก

ได้อ่านแต่เรื่องสตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จมากๆ อาจทำให้ผู้ที่อยู่นอกวงการเข้าใจผิดได้

โลกไม่ได้สวยงามไปทั้งหมด ยังมีด้านมืดหลายเรื่องที่สตาร์ทอัพต้องเจอ

Kellogg Insights ปี 2018 รายงานว่า อายุโดยเฉลี่ยของผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพ คือ 45 ปี ไม่ใช่คนที่อายุน้อยๆอย่างที่หลายๆคนเข้าใจผิดกัน คนวัยกลางคนกลุ่มนี้เริ่มมีความแข็งแกร่งทางด้านการเงินส่วนตัว เงินลงทุนเริ่มแรกส่วนใหญ่มาจากเงินสะสมของตัวเอง หรือเงินหยิบยืมหรือการร่วมลงทุนจากคนใกล้ชิด

McKinsey & Company รายงานในปี 2021 ว่า สตาร์ทอัพที่สามารถก้าวไปถึงระดับยูนิคอร์น มีช่วงการเดินทางที่ต้องระดมทุนระหว่าง $100 -$220 ล้าน หมายความว่างานหาเงินทุนมาหล่อเลี้ยงบริษัทให้อยู่รอด หรือเติบโตได้ เป็นงานหนักและเครียดมาก

Investopedia ปี 2020 รายงานเกี่ยวกับเรื่องความล้มเหลวของสตาร์ทอัพไว้โดยประมาณว่า 21% ล้มเหลวภายในปีแรก, 30% ล้มเหลวในช่วงปีที่สอง, 50% ล้มเหลวในช่วงปีที่ 5, และมี 10% ที่ล้มเหลวในช่วงที่ดำเนินธุรกิจในปีที่ 10

สาเหตุใหญ่ 2 เรื่องหลักที่ทำให้สตาร์ทอัพล้มเหลว คือ ขาดเงินทุน และสินค้ามีความต้องการในตลาดต่ำเกินไป

การสำรวจของหลายสำนักรายงานตรงกันว่า สตาร์ทอัพ 9 ใน 10 แห่ง จะประสบความล้มเหลว

https://www.myshortlister.com/insights/startup-statistics

https://www.cbinsights.com/research-unicorn-companies

Leave a Reply