ทุกคนจะมีติวเตอร์ส่วนตัว มีความรู้ที่เท่าเทียมกันทุกคน ทุกผลิตภัณฑ์ของ Microsoft จะมีงานของ OpenAI

  • สถาบันการศึกษาบางแห่ง แบน ChatGPT กลัวนักเรียนใช้ AI ทำรายงาน
  • ครูอาจารย์ที่คิดบวกบอกว่า นักเรียนทุกคนจะมีติวเตอร์ส่วนตัวที่ทำให้เข้าใจบทเรียนดีขึ้น
  • บริษัทต่างๆ สามารถเอางานของ OpenAI ไปพัฒนาต่อยอดได้
  • งานบางอย่างอาจหายไป แต่จะมีงานใหม่เกิดขึ้นอีกมาก

Satya Nedella หรือ สัตยา นาเดลลา CEO คนปัจจุบันของ Microsoft ซึ่งมีพื้นฐานเป็นวิศวกรไฟฟ้าเล่าให้ฟังว่า เขาไม่เคยเข้าใจทฤษฎี Maxwell Equation แต่หลังจากสอบถามกับ ChatGPT ของ OpenAI ทำให้เขาเข้าใจอย่างกระจ่างในสิ่งที่สับสนมาหลายสิบปี

Andrej Karpathy ผู้เชี่ยวชาญ AI ผู้สร้าง Autopilot ของ Tesla ทวิตบอกผู้ติดตามว่า ทุกวันนี้งานของเขาประมาณ 80% เขียนโค้ดโดย GitHub Copilot ของ OpenAI

สถาบันการศึกษาบางแห่ง สั่งแบน ChatGPT เพราะกลัวว่านักเรียนจะไม่ได้ฝึกฝนทดสอบความรู้ ไม่ได้ค้นคว้า ไม่ได้เขียนรายงานด้วยตัวเอง

แต่ครูอาจารย์ที่คิดบวก ให้ความเห็นว่า ChatGPT กำลังเป็น Personal Tutor ซึ่งเป็นติวเตอร์ส่วนตัวให้กับนักเรียนทุกคน ความเข้าใจในบทเรียน และความก้าวหน้าทางวิชาการจะเพิ่มพูนขึ้น

การเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ๆ หลายๆครั้งได้กลายเป็นเรื่องน่ากังวล มันมีทั้งส่วนที่เรียกว่า “สร้าง” และ “ทำลาย”

ตอนที่มีเครื่องคิดเลขใช้กันแพร่หลาย ในวงการศึกษากลัวว่านักเรียนจะไม่มีความรู้พื้นฐานในการคิดเลข แต่เมื่อยอมรับเครื่องคิดเลข ก็ไม่ต้องไปเสียเวลามากๆกับเรื่องง่ายๆในการคำนวณ ทำให้การศึกษาเรียนรู้พัฒนาขึ้นไปอีกระดับ

เมื่อมี Google ใช้ ความจำเป็นในการจดจำสิ่งที่เป็นความจริงหรือความรู้ เริ่มมีความจำเป็นน้อยลง อยากรู้อะไรถามกูเกิลได้

สำหรับ ChatGPT และงานจากตระกูล GPT ของ OpenAI ได้ยกระดับการเรียนรู้ การทำความเข้าใจ และการทำงานไปอีกระดับ

Knowledge Worker ซึ่งเป็นคนทำงานด้านความรู้ จะมีผลผลิตมากขึ้น ทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น

คนทำงานด่านหน้า หรือแม้แต่ผู้คนในชนบทที่ห่างไกล สามารถหาคำตอบในเรื่องที่ไม่รู้ได้ง่ายมาก และมีคำอธิบายที่เข้าใจง่ายด้วย

ChatGPT วันนี้ใช้โมเดล GPT-3.5 ในการฝึกฝนตัวเองให้เป็นพหูสูต สามารถตอบปัญหาได้เกือบทุกเรื่อง ขณะนี้ยังอยู่ในช่วง Beta ยังสามารถพัฒนาไปได้อีกไกล ข้อมูลพื้นฐานที่ใช้ตอบคำถามต่างๆ เป็นฐานข้อมูลที่นับถึงปี 2021 เท่านั้น

Sam Altman ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง OpenAI เปิดเผยว่า ยังจะมีการพัฒนาไปได้อีกไกล แต่ยังบอกแน่ชัดไม่ได้ว่าจะถึงระดับ AGI ตามที่ผู้คนคาดหวังได้เมื่อไหร่

OpenAI วันนี้มี DALL·E ที่สามารถสร้างภาพจากคำสั่งข้อความ และมี GPT ที่สามารถเขียนข้อความยาวๆจากคำถามหรือคำสั่งสั้นๆ และเร็วๆนี้จะมี AI สร้างวิดีโอจากคำสั่ง

OpenAI และ Microsoft ได้กลายเป็นหุ้นส่วนธุรกิจที่สำคัญระหว่างกัน แต่ OpenAI ยังมีอิสระที่จะทำงานของตัวเอง สามารถพัฒนาและสร้างผลิตภัณฑ์ของตัวเอง และขายลิขสิทธิ์ให้กับบริษัทอื่นได้

วันนี้มีสตาร์ทอัพหลายแห่งที่ใช้เทคโนโลยีของ OpenAI ในการพัฒนาแพลตฟอร์มหรือแอปพลิเคชันของตัวเอง

สำหรับ Microsoft ซึ่งเป็นผู้ร่วมลงทุน $1 พันล้านดอลลาร์ใน OpenAI ตั้งแต่ปี 2019 มีข่าวว่าในปี 2023 ได้ลงทุนเพิ่มอีก $10 พันล้านดอลลาร์ กำลังจะทำให้งานของ OpenAI ทั้งหมดเชื่อมต่ออยู่กับผลิตภัณฑ์ของ Microsoft

Azure ซึ่งเป็นคลาวด์ของ Microsoft มีบริษัทต่างๆและนักพัฒนาโปรแกรมกำลังใช้บริการอยู่จำนวนมาก วันนี้มี GPT เป็นแพลตฟอร์มให้ผู้ที่สนใจไปใช้ได้ ChatGPT กลายเป็น API ที่สามารถเอาไปเชื่อมต่อกับงานของบริษัทอื่นได้

Microsoft Word อาจใช้ GPT ช่วยเขียนหนังสือให้ หรือให้คำแนะนำในการเขียน

Power Point ก็ไม่ต้องหารูปจากที่ไหนมาใส่ ใช้ DALL·E มาสร้างภาพตามคำสั่งได้เลย

Bing เครื่องมือค้นหาที่ไม่ค่อยได้รับความนิยม อาจกลายเป็นที่ต้องการสำหรับคนที่ต้องการคำตอบแบบสังเคราะห์ อยากรู้อะไรก็ถาม ChatGPT ที่อยู่กับ Bing ได้

บริษัทไหนอยากให้ Chatbot ของตัวเองมีประสิทธิภาพในการโต้ตอบคำถามเหมือนคนกำลังตอบจริงๆ สามารถใช้ ChatGPT ไปช่วยฝึกฝนได้

ChatGPT ทำงานได้ดีในการตอบคำถามที่หลากหลาย หากข้อมูลจำกัดอยู่ในเรื่องราวเฉพาะอย่าง มันจะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพแน่นอน

ความรู้ทางด้านเคมีที่ซับซ้อน เมื่อมี ChatGPT ที่รู้วิธีการสื่อสารกับผู้คนมาร่วมทำงานด้วย จะทำให้การถ่ายทอดความรู้เกิดความเข้าใจได้ง่ายขึ้น

เราจะได้เห็นการใช้แพลตฟอร์ม ChatGPT ในการรวบรวมข้อมูลทางด้านกฎหมาย มีคดีตัวอย่างทุกเรื่องรวมรวมไว้ครบ AI จะวิเคราะห์ แยกแยะ หาความเหมือนและแตกต่างได้ สามารถคาดการณ์คำตัดสินของแต่ละคดีได้ในไม่กี่วินาที

OpenAI จะมีส่วนสำคัญอย่างมากในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ปัญญาประดิษฐ์กำลังทำให้เป็นจริง

ความรู้หลายอย่างที่เคยเป็นเรื่องของผู้เชี่ยวชาญโดยตรง กำลังจะกลายเป็นความรู้พื้นฐานสำหรับคนทั่วไป

AI ทำให้ผู้คนทำงานได้มากขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น

งานหลายอย่างอาจหายไป แต่จะมีงานใหม่ๆเกิดขึ้นอีกมาก

Soft Skill หรือทักษะในการทำงานอื่นๆ จะมีความสำคัญและได้รับการพัฒนาจากแต่ละบุคคลมากขึ้น เช่น การสื่อสาร ความคิดสร้างสรรค์ การบริหารจัดการเวลา ความยืดหยุ่นและการปรับตัว การคิดเชิงวิเคราะห์และเชิงวิพากษ์ (Analytic and Critical Thinking) การทำงานร่วมกัน การพูด การฟัง การเจรจาต่อรอง การตัดสินใจ การเรียนรู้ต่อเนื่อง การเป็นผู้นำ การคิดเชิงบวก ฯลฯ

แม้ว่าในวันนี้ OpenAI และ Microsoft จะเป็นข่าวดังกับกระแสของ AI ใน GPT แต่มิได้หมายความว่าจะทำให้ยักษ์ใหญ่รายอื่นล้มหายไป หรือถูกแทนที่ได้ง่ายๆ

ค่าย Google ที่รวบรวมคนเก่งด้าน AI ของโลกเอาไว้มากที่สุด กำลังพัฒนาเทคโนโลยีในทิศทางเดียวกัน และจะเป็นข่าวใหญ่ในเร็วๆนี้อย่างแน่นอน

การพร้อมใจกันพัฒนาของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่หลายแห่ง จะทำให้โลกพัฒนาขึ้นแบบก้าวกระโดด

Albert Einstein มีโควทคำพูดดังเมื่อเกือบร้อยปีก่อนว่า “Imagination is more important than Knowledge” หรือ “จินตนาการมีความสำคัญกว่าความรู้” มันเป็นเรื่องจริงที่เข้าใจได้ในปัจจุบัน

แต่ ไอน์สไตน์ ได้บอกว่า “Knowledge is limited” หรือ “ความรู้มีจำกัด” วันนี้ไม่เป็นความจริงแล้ว

AI ที่มีมากับ ChatGPT ได้กลายเป็นผู้ช่วยส่วนตัวสำหรับทุกคน สามารถใฝ่หาความรู้ได้ทุกเรื่อง และทำความเข้าใจได้ง่าย!!!

https://www.youtube.com/watch?v=UNbyT7wPwk4&t=1240s

Leave a Reply