เทคโนโลยี Blockchain ทำให้เกิดอินเตอร์เน็ตยุค Web3 แอปพลิเคชันเป็นเครือข่าย dApps ไร้ตัวกลาง กระจายอำนาจ ต้นทุนต่ำ

มีข่าวเกี่ยวกับ Blockchain, Web3 บอกให้ฟังบ่อยๆว่า มันกำลังจะเปลี่ยนโลกอินเตอร์เน็ต แต่คนส่วนใหญ่ที่ไม่ได้อยู่ในสายเทคฟังแล้วอาจไม่ค่อยเข้าใจ

วันนี้เรามีวิธีทำให้เรื่องยุ่งยากซับซ้อนเข้าใจง่ายขึ้น โดยพึ่งพาการอธิบายและสรุปด้วย AI

ลองมาฟังคำอธิบายจาก ChatGPT เกี่ยวกับเทคโนโลยี Blockchain ซึ่งทำให้เกิด Web3 และแอปพลิเคชัน dApps:

Blockchain คือบัญชีแยกประเภทดิจิทัลของธุรกรรมที่ทำซ้ำ แล้วแจกจ่ายทั่วทั้งเครือข่ายของระบบคอมพิวเตอร์บนบล็อกเชน

แต่ละบล็อกในห่วงโซ่ประกอบด้วยธุรกรรมจำนวนหนึ่ง และทุกครั้งที่มีธุรกรรมใหม่เกิดขึ้นบนบล็อกเชน บันทึกของธุรกรรมนั้นจะถูกเพิ่มลงในบัญชีแยกประเภทของผู้เข้าร่วมทุกคน

ฐานข้อมูลแบบกระจายศูนย์ที่จัดการโดยผู้เข้าร่วมหลายคน ได้รับการออกแบบมาเพื่อบันทึกธุรกรรมผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ใช้การเข้ารหัสเพื่อให้ผู้เข้าร่วมแต่ละคนในเครือข่ายจัดการบัญชีแยกประเภทได้อย่างปลอดภัย โดยไม่จำเป็นต้องมีหน่วยงานกลาง

Web3 หรือที่เรียกว่า Web 3.0 เป็นวิวัฒนาการขั้นต่อไปของอินเทอร์เน็ต เป็นเวอร์ชันกระจายอำนาจของอินเทอร์เน็ตปัจจุบัน

ในยุค Web3 ข้อมูลและแอปพลิเคชันจะถูกจัดเก็บ และเรียกใช้บนเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ไม่ได้มาจากเซิร์ฟเวอร์ส่วนกลางเพียงเครื่องเดียว ช่วยทำให้ผู้ใช้ได้รับความปลอดภัย มีความเป็นอิสระ และมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

Web3 ยังอนุญาตให้ใช้แอปพลิเคชันแบบกระจายอำนาจ หรือ dApps ซึ่งสร้างขึ้นจากเทคโนโลยีบล็อกเชน

dApps ช่วยให้ผู้ใช้สามารถโต้ตอบกับระบบที่กระจายอำนาจ และทำงานต่างๆได้ เช่น การทำธุรกรรม การจัดการสินทรัพย์ดิจิทัล การสร้างสัญญาอัจฉริยะโดยไม่ต้องใช้ตัวกลาง

คุณสมบัติหลักประการหนึ่งของ dApps คือ สร้างขึ้นบนบล็อกเชน ซึ่งหมายความว่าข้อมูลและธุรกรรมบน dApp จะถูกบันทึกไว้ในบัญชีแยกประเภทสาธารณะที่ป้องกันการปลอมแปลงได้ ช่วยทำให้มีความปลอดภัยมากขึ้น โปร่งใส และไม่เปลี่ยนแปลงข้อมูล

เราสามารถใช้ dApps เพื่อวัตถุประสงค์ที่หลากหลาย เช่น การจัดการสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น กระเป๋าเงินดิจิตอล สร้างตลาดกลางที่ผู้ใช้สามารถซื้อและขายสินค้าและบริการโดยไม่ต้องมีคนกลาง

แอปพลิเคชันการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงบริการทางการเงิน เช่น การให้ยืมและการขอยืม โดยไม่ต้องใช้สถาบันการเงินแบบดั้งเดิม

ตลาดแบบ Decentralized มีการกระจายอำนาจ ไม่มีใครคนใดคนหนึ่งมากำหนดทิศทาง ไม่สามารถบังคับอะไรให้เป็นไปตามความต้องการของใครได้ ทำให้ผู้ใช้งานในระบบสามารถคาดการณ์ผลลัพธ์ของเหตุการณ์ตามสภาพที่แท้จริงของตลาด

เครือข่ายโซเชียลแบบกระจายศูนย์ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมข้อมูล และความเป็นส่วนตัวได้มากขึ้น

พูดง่ายๆ คือ Web3 เป็นอนาคตของอินเทอร์เน็ตที่ให้อำนาจแก่ผู้ใช้ โดยทำให้พวกเขาควบคุมข้อมูล และการโต้ตอบทางออนไลน์ได้มากขึ้น ผ่านการใช้เทคโนโลยี Blockchain

Leave a Reply