
“Who Moved My Cheese” หนังสือในหมวดธุรกิจที่เป็น Best Seller ตีพิมพ์ในปี 1998 ขายได้มากกว่า 30 ล้านเล่ม มีการแปลไปมากกว่า 37 ภาษา
ผู้เขียน คือ Dr. Patrick Spencer Johnson นักจิตวิทยา นักเขียน และคุณหมอ เสียชีวิตในปี 2017 เคยทำงานอยู่กับ Harvard Business School และ John F. Kennedy School of Government
“ใครเอาเนยแข็งของฉันไป” มีวิธีการนำเสนอที่น่าทึ่ง อ่านแล้วเหมือนกำลังอ่านหนังสือเด็ก แต่ที่จริงเป็นหนังสือธุรกิจ
เนื้อหาเป็นเรื่องราวที่ติดตามหนูสองตัวชื่อ “สนิฟฟ์ และ สเคอรี” และ คนตัวเล็กสองคนชื่อ “เฮม และ ฮอ” ที่อาศัยอยู่ในเขาวงกตที่กำลังค้นหาเนยแข็ง
เนยแข็งสื่อความหมายเป็นตัวแทนของสิ่งสำคัญที่ผู้คนต้องการในชีวิต
เนยแข็งเป็นแหล่งของความสะดวกสบายและความปลอดภัย แต่วันหนึ่งชีสหายไป ทำให้ตัวละครต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลง
หนูสองตัว คือ “สนิฟฟ์ และ สเคอรี” ปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว พวกเขาออกไปค้นหาเนยแข็งชนิดใหม่ ในขณะที่คนตัวเล็ก “เฮม และ ฮอ” ต่อต้านการเปลี่ยนแปลง และพยายามยึดติดอยู่กับอดีต เฝ้ารออยู่ที่เดิมซึ่งเคยมีชีส และหวังว่าจะมีชีสอีกครั้ง
ในที่สุด “เฮม และ ฮอ” ก็ตระหนักว่าพวกเขาจำเป็นต้องละทิ้งการยึดติดกับเนยแข็งแบบเก่า และยอมรับการเปลี่ยนแปลงเพื่อที่จะพบกับความสำเร็จ
ตลอดทั้งเล่ม ผู้เขียนใช้ประสบการณ์ของตัวละครเพื่อแสดงให้เห็นถึงทัศนคติที่แตกต่างกันที่ผู้คนมีต่อการเปลี่ยนแปลง และทัศนคติเหล่านั้นส่งผลต่อความสำเร็จในชีวิตอย่างไร
แนวคิดจาก “Who Moved My Cheese” คือ การเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องคาดการณ์และเตรียมพร้อมล่วงหน้า ตรวจตราสิ่งที่จะเกิดขึ้นอยู่เสมอ ปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รู้จักเปลี่ยนแปลงเพื่อก้าวเดินต่อไป สนุกกับการเปลี่ยนแปลง และพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นอีกครั้ง!
การเปลี่ยนแปลงเป็นความจริงในชีวิต และจะเกิดขึ้นเสมอไม่ว่าเราจะชอบหรือไม่ก็ตาม ทุกคนควรยอมรับการเปลี่ยนแปลงแทนที่จะต่อต้าน
เราสามารถคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงได้ สิ่งสำคัญที่ต้องทำ คือ การทำงานเชิงรุก และคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงไว้ล่วงหน้า ไม่อย่างนั้นอาจตั้งตัวไม่ทัน
ควรน้อมรับและปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จและความสุข
รู้จักปล่อยวางอดีต การยึดติดอยู่กับอดีตจะขัดขวางไม่ให้เราเปิดรับการเปลี่ยนแปลง และขัดขวางความสำเร็จ มีการเปรียบเทียบให้หนูและคนตัวเล็กในเขาวงกต เลิกยึดติดกับ “ชีส” ที่เคยมี
ควรโอบรับความไม่แน่นอน การเปลี่ยนแปลงมักมาพร้อมกับความไม่แน่นอน การยอมรับความไม่แน่นอนหมายถึงโอกาสในการเติบโตและการพัฒนา
ยุค 4.0 เทคโนโลยีจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างพลิกโฉม ถ้ารับมือกับการเปลี่ยนแปลงไม่ได้ อาจหมายถึงการสูญพันธุ์!!!