
Google ได้ทดสอบความสามารถ ChatGPT ของ OpenAI ซึ่งวันนี้มี Microsoft เป็นหุ้นส่วนใหญ่
ผลการการสัมภาษณ์ ChatGPT และให้ลองเขียนโค้ดพบว่า มันผ่านเกณฑ์วิศวกรระดับ 3 ซึ่งในปัจจุบัน Google จ้างคนทำงานด้วยเงิน 183,000 ดอลลาร์ต่อปี คิดเป็นเงินไทยประมาณ 6,222,000 บาทต่อปี หรือ 518,500 บาท ต่อเดือน
วันนี้สามารถเอางานที่เคยใช้วิศวกรเงินเดือน 518,500 บาท ไปให้ ChatGPT ทำแทนได้ และไม่มีค่าแรงที่ต้องจ่าย ใช้บริการฟรี
แต่ถ้าอัพเกรดเป็น ChatGPT Plus ที่จะไม่มีปัญหาเรื่องความหนาแน่นของการใช้งาน มีค่าสมาชิก $20 ต่อเดือน (680 บาท)
ข่าวนี้มีรายงานว่า เผยแพร่มาจากการทดสอบภายในของ Google เอง เพราะต้องการเปรียบเทียบประสิทธิภาพการทำงานระหว่าง ChatGPT กับ LaMDA ของ Google ที่สามารถทำงานในลักษณะเดียวกัน
ไม่มีผลการทดสอบเปรียบเทียบว่า AI ของ Google หรือ Microsoft ใครมีประสิทธิภาพมากกว่า หาก LaMDA หรือ Bard เปิดให้ใช้แบบสาธารณะเหมือน ChatGPT จะได้เห็นข้อเปรียบเทียบที่ชัดเจนแน่
น่าทึ่งมากที่ ChatGPT เข้าเกณฑ์ได้รับการว่าจ้างในระดับ 3 ซึ่งเป็นระดับเริ่มต้นในทีมวิศวกรของ Google
ขั้นตอนการสัมภาษณ์เข้าทำงานเป็นวิศวกรซอฟต์แวร์ของ Google จะใช้คำถามทางเทคนิคเป็นหลัก ซึ่ง ChatGPT สามารถสอบผ่านได้สบายมาก
หลักเกณฑ์ที่ใช้ในการคัดเลือกคนเข้าทำงานใน Facebook, Amazon และบริษัทเทคจำนวนมาก ก็ใช้หลักเกณฑ์เดียวกับ Google
หากถาม ChatGPT ว่า มันจะมาทำหน้าที่แทนวิศวกรซอฟต์แวร์ได้หรือไม่ มันตอบว่า “ไม่”
ChatGPT อธิบายเพิ่มเติมว่า มันเป็นเครื่องมือที่สามารถช่วยงานบางอย่างได้ แต่ไม่สามารถแทนที่ความคิดสร้างสรรค์ ทักษะการแก้ปัญหา และความสามารถในการคิดเชิงวิพากษ์ของวิศวกรซอฟต์แวร์ของมนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์
ChatGPT บอกเองว่า มันต้องการให้มนุษย์ดูแล และการวางทิศทางในการทำงาน เพื่อการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
ตัวอย่างที่กล่าวมาข้างต้นนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับวิศวกรที่ทำงานด้านการเขียนโค้ดเท่านั้น ที่จริง ChatGPT ยังสามารถทำงานพิเศษเฉพาะทางในสาขาอื่นๆ เช่น วิทยาศาสตร์ แพทย์ นักจิตวิทยา เภสัชการ สถาปนิก การตลาด บัญชี บริหาร กฎหมาย ฯลฯ
อย่างกรณีของคนที่ทำงานเป็น “ที่ปรึกษา” ต่อนี้ไปจะหมดความสำคัญไปมาก เพราะสามารถขอคำปรึกษาจาก AI ได้ มันตอบได้เกือบทุกเรื่อง!!!
ความก้าวหน้าของ AI ที่จะมาทำงานแทนมนุษย์ จะยิ่งทำให้งานในแต่ละสาขาพัฒนาก้าวหน้ายิ่งขึ้น!!!