เกษตรกรขายผลผลิตอนาคตด้วย NFT ไทยอาจเป็น Blockchain Hub อาเซียน แต่ต้องรอดูว่า รัฐบาลใหม่เป็นใคร?     

พรรคเพื่อไทยประกาศว่า จะทำให้ประเทศไทยเป็น Blockchain Hub ของอาเซียน จะใช้ NFT เป็นเครื่องมือขายสินค้าล่วงหน้าให้เกษตรกร และเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความสามารถทางศิลปะและการออกแบบได้ขายผลงานในตลาดโลกง่ายขึ้น

NFT เป็นเครื่องมือที่ช่วยขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าให้คนทั่วโลกได้

NFT ย่อมาจาก Non-Fungible Token เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ซ้ำใคร ซึ่งแสดงถึงความเป็นเจ้าของ หรือ แหล่งที่มาของรายการหรือเนื้อหาเฉพาะได้ สร้างขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน ไม่สามารถลอกเลียนแบบหรือปลอมแปลงได้

หากใช้ NFT เป็นเครื่องมือการขายผลผลิตในอนาคต มันจะทำหน้าที่เป็นตัวแทนของสัญญา หรือสัญญาสำหรับสินค้าในอนาคตที่จะส่งมอบโดยผู้สร้าง

ผู้ซื้อ NFT คือผู้ซื้อสิทธิในการผลิตในอนาคต เป็นแนวคิดที่คล้ายกับสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแบบดั้งเดิม แต่เมื่อใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน มันทำให้มี ความโปร่งใส ทราบแหล่งที่มาชัดเจน สามารถถ่ายโอนอย่างปลอดภัย

ข้อสำคัญที่ทำให้ผู้ซื้อยอมรับ คือ ความน่าเชื่อถือ ผู้ซื้อต้องเชื่อมั่นว่าผู้สร้าง NFT จะส่งมอบสินค้าจริง หากอยู่ในแพลตฟอร์มของบุคคลที่สามที่น่าเชื่อถือก็จะมีคนกล้าซื้อมากขึ้น

หากพรรคเพื่อไทยต้องการใช้ NFT เพื่อขายผลผลิตทางการเกษตรในอนาคต จะต้องทำการตลาด และการขาย NFT ที่แสดงถึงสิทธิ์ในพืชผลหรือผลิตผลในอนาคต ขั้นตอนต่างๆที่ต้องทำ คือ

1. ระบุข้อกำหนดและเงื่อนไข:

ระบุผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่นำเสนอ ปริมาณ คุณภาพ และระยะเวลาการจัดส่งที่คาดไว้อย่างชัดเจน รวมถึงรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง เช่น แนวทางการผลิต มาตรฐานการรับรอง ฯลฯ

2. เลือกแพลตฟอร์มบล็อกเชน:

เลือกแพลตฟอร์มบล็อกเชนที่เหมาะสมเพื่อสร้าง NFT ของสินค้าการเกษตร Ethereum เป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมมากที่สุด แต่ก็ยังมีตัวเลือกอื่นๆ เช่น Binance Smart Chain, Flow หรือ Tezos ซึ่งให้ต้นทุนการทำธุรกรรมที่ต่ำกว่าและ/หรือโซลูชันที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า

3. สร้าง NFT:

ออกแบบการแสดงดิจิทัล (รูปภาพ วิดีโอ หรือข้อความ) ของผลผลิตทางการเกษตรในอนาคต และสร้าง NFT โดยใช้แพลตฟอร์มหรือตลาดที่เหมาะสม เช่น OpenSea, Rarible หรือ Mintable อาจต้องเขียนสัญญาอัจฉริยะเพื่อระบุข้อกำหนดและเงื่อนไข รวมถึงข้อกำหนดทางกฎหมายหรือข้อจำกัดในการโอน

4. ทำตลาด NFT ของผลผลิตการเกษตร:

โปรโมท NFT กับผู้ซื้อที่มีศักยภาพโดยใช้โซเชียลมีเดีย ฟอรัมอุตสาหกรรม หรือโฆษณาที่ตรงเป้าหมาย พิจารณาการเป็นพันธมิตรกับบุคคลหรือองค์กรที่มีชื่อเสียงในภาคการเกษตรเพื่อเพิ่มการมองเห็นและความน่าเชื่อถือ

5. ขาย NFT:

ลงรายการ NFT ของสินค้าเพื่อขายในตลาดซื้อขายที่เหมาะสม โดยระบุราคาและพารามิเตอร์การเสนอราคาใดๆ ผู้ซื้อจะซื้อ NFT โดยใช้สกุลเงินดิจิทัล และได้รับเงินในกระเป๋าเงินของผู้ขายโดยตรง

6. ปฏิบัติตามข้อกำหนด:

เมื่อขาย NFT แล้ว สิ่งสำคัญคือต้องส่งมอบผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรตามสัญญาตามข้อกำหนดและเงื่อนไขที่ระบุไว้ในสัญญาอัจฉริยะ รักษาการติดต่อสื่อสารกับผู้ซื้อเพื่อให้แน่ใจว่าการทำธุรกรรมราบรื่นและสร้างความไว้วางใจสำหรับการขายในอนาคต

7. การปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับ:

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เช่น ภาษี กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค และข้อบังคับด้านการเกษตรเฉพาะใดๆ

การขายผลผลิตทางการเกษตรในอนาคตโดยใช้ NFT เป็นแนวคิดที่ค่อนข้างใหม่ อาจมีความเสี่ยงและความท้าทายที่เกี่ยวข้อง เช่น ความผันผวนของราคา ความไม่แน่นอนของกฎระเบียบ และความไว้วางใจของผู้ซื้อ ควรมีการวิจัยล่วงหน้าอย่างละเอียด

หากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง และได้เป็นรัฐบาล และไม่เจออุบัติเหตุทางการเมืองเหมือนอย่างที่เคยเจอมาหลายครั้ง คงได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในประเทศไทย!!!

Leave a Reply