อินเตอร์เน็ตพาคนไปท่องโลกข้อมูล แต่หุ่นยนต์พาไปสัมผัสโลกจริง

March Raibert ผู้ก่อตั้ง Boston Dynamics ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของ MIT บอกว่า… ในอนาคต หุ่นยนต์จะพลิกโฉมโลกมากกว่าที่อินเตอร์เน็ตเคยทำ มีการเปรียบเทียบให้เห็นง่ายๆว่า…

“อินเตอร์เน็ตให้คุณได้ไปสัมผัสข้อมูลต่างๆทั่วโลก แต่หุ่นยนต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามันผนวกอินเตอร์เน็ตเข้าไปด้วย มันให้คุณออกไปสัมผัสทุกๆสิ่งในโลกแห่งความเป็นจริง และสามารถทำงานหรือจัดการมันได้ด้วย… นี่เป็นไอเดียที่ยิ่งใหญ่มาก”

ถ้าลองจินตนาการอนาคตหุ่นยนต์ตามนายใหญ่ Boston Dynamics คงจะพอนึกภาพออกว่าหุ่นยนต์มีโอกาสจะเป็นอย่างไรในอนาคตบ้าง มันมีทั้งด้านบวกและลบแน่ๆ

การพัฒนาหุ่นยนต์ให้เคลื่อนที่ไปสถานที่ต่างๆทั้งที่เป็นสิ่งแวดล้อมเก่าและใหม่เป็นเรื่องที่ทำได้แน่ๆ มันไม่ต่างอะไรกับระบบออโตโนมัสของรถไร้คนขับที่พัฒนากันไปไกลจนจะเริ่มมีการใช้จริงในอีกไม่กี่ปี่ข้างหน้า

แต่หุ่นยนต์ที่มี 2 ขา หรือ 4 ขา มันเดินทางเข้าถึงสถานที่ต่างๆซึ่งล้อเลื่อนไม่สามารถเข้าถึงได้ เช่น ขึ้นไปบนตึกสูง 20 ชั้น เดินทางในป่าเขา อยู่ในสำนักงานหรือโรงงานซึ่งมีสิ่งกีดขวางต่างๆ มันไปได้ทุกที่ซึ่งมนุษย์ไปได้ และมันมีกำลังที่จะทำงานหรือจัดการกับปัญหาต่างๆได้ดีกว่ามนุษย์แน่ๆ เป็นเครื่องจักรที่ไร้จิตใจ ทำงานตามคำสั่งที่โปรแกรมเอาไว้

ในวิดีโอสาธิตการทำงานของหุ่นยนต์หลายชุดของ บอสตันไดนามิคส์ เราได้เห็นการแกล้งหุ่นยนต์สารพัดอย่าง เช่น ผลักมันไปมา ถีบมันให้ล้มลง กลั่นแกล้งย้ายของที่มันกำลังจะยกเอาไปไว้ที่อื่น ฯลฯ  หากเป็นคนจริงซึ่งมีจิตใจและความรู้สึกโดนกระทำแบบนี้ มันต้องมีการทะเลาะวิวาทเกิดขึ้นอย่างแน่นอน!!!

แนวทางการพัฒนาในอนาคต หุ่นยนต์อาจทำหน้าที่เป็น Platform รูปแบบหนึ่ง เหมือน เครื่องคอมพิวเตอร์พีซี หรือสมาร์ตโพน

ตัวหุ่นยนต์มีฟังชั่นที่ครบถ้วนในตัว มีกล้องรวบรวมข้อมูลภาพจากรอบด้าน มีขาพาเคลื่อนที่ไปได้ทุกแห่ง มีมือทำงานได้เหมือนมนุษย์ ติดตั้งฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์เพื่อการทำงานที่หลากหลายได้

ผู้ซื้อหุ่นยนต์สามารถพัฒนามันด้วยการใส่โปรแกรมสั่งงานหรือเลือกให้มันทำงานได้ ลักษณะใกล้เคียงกับการทำงานของแอปต่างๆที่เราใช้กันคุ้นเคยในสมาร์ตโพน แต่คราวนี้ไม่ได้ทำงานด้านข้อมูลเท่านั้น หุ่นยนต์สามารถพาไปทำงานในสภาพแวดล้อมจริง

แพลตฟอร์มหุ่นยนต์ที่ติดตั้งอินเตอร์เน็ต ไม่ได้เพียงแค่รวบรวมข้อมูลจากทุกแห่งทั่วโลกเท่านั้น แต่มันสามารถจัดการกับงานต่างๆในโลกแห่งความเป็นจริง เคลื่อนที่ไปได้ทุกแห่งเหมือนมนุษย์ จะทำให้มันแข็งแกร่งเกินคนก็ได้

ตัวอย่างการใช้งานอย่างหนึ่ง เช่น เอาหุ่นยนต์ไปแทนที่วิลแชร์ที่เป็นเก้าอี้รถเข็นสำหรับคนป่วยและคนขาพิการ มันจะช่วยทำให้คนที่พิการที่เดินไปไหนไม่สะดวก สามารถไปได้ทุกที่ ใช้ชีวิตได้ตามปกติเหมือนคนทั่วไป

นักเทคโนโลยีสามารถผลิตหุ่นยนต์ที่แข็งแรงทนทานและทำงานได้ดีกว่าคนแน่ๆ มันเดินขึ้นลงบันใด 20 ชั้นวันละหลายๆรอบโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ทำงานในโรงงานผลิตสินค้าต่างๆได้ ช่วยเหลือมนุษย์เมื่อเกิดภัยพิบัติ เอามันไปใช้งานสำรวจในพื้นที่อันตรายได้ ฯลฯ

วันนี้ยังเป็นช่วงเริ่มต้น แต่ต่อไปจะได้เห็นหุนยนต์ที่มีประสิทธิภาพแข็งแกร่ง มีปัญญาประดิษฐ์ที่คิดและทำงานแก้ปัญหาทุกอย่างแบบอัตโนมัติ แม้แต่เทคโนโลยีโดรนก็สามารถเอามาเชื่อมกับหุ่นยนต์ให้กลายเป็นหุ่นยนต์ที่บินได้ด้วย

เจฟฟ์ เบโซส นายใหญ่อเมซอนซึ่งเคยมีภาพถ่ายร่วมกับหุ่นยนต์ SpotMini ของบอสตันไดนามิคส์ มีข่าวลือว่าจะทำหุ่นยนต์ออกขายให้ประชาชนทั่วไปเร็วๆนี้ แต่ เจฟฟ์ เบโซส คิดไกลออกไปอีกว่า ต่อไปในอนาคตจะเอาหุ่นยนต์ไปทำงานแทนคนในโรงงานที่ตั้งอยู่ต่างดาว อุตสาหกรรมหนักทั้งหมดเอาไปอยู่นอกโลก หุ่นยนต์สามารถทำงานในสภาพแวดล้อมแย่ๆ ได้อย่างไม่มีปัญหา แล้วโลกมนุษย์ก็จะกลายเป็นแหล่งพักอาศัยที่สวยงานสำหรับคน เหลือไว้ทำการเกษตรหรืออุตสาหกรรมเบาที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

แต่ที่คนกลัวเกี่ยวกับหุ่นยนต์ AI คือ ความสามารถของมันในงานด้านการทหาร ทาง Boston Dynamics ก็มีการพัฒนาหุ่นยนต์บางรุ่นร่วมกับกระทรวงกลาโหมของสหรัฐอเมริกา

Boston Dynamics เคยเป็นบริษัทหนึ่งในเครือ Google หรือ Alphabet มานานสี่ปีครึ่ง แต่เมื่อกลางปี 2017 ได้ถูกขายให้กลุ่ม Softbank ซึ่งมีแผนทั้งระยะสั้นและยาวกับ บอสตันไดนามิคส์

มีการเปิดเผยจากกูเกิลว่า เหตุที่ปล่อยขาย Boston Dynamics เพราะดูแล้วเป็นบริษัทที่ทำเงินได้น้อย ต้องลงทุนระยะยาว แต่อีกสาเหตุหนึ่งซึ่งไม่มีการเปิดเผยอาจเป็นเพราะทางกูเกิลถูกพนักงานภายในและสาธารณะชนตำหนิเรื่องไปร่วมงานทางการทหารกับกระทรวงกลาโหม หาว่าไปมีส่วนร่วมในการสร้างเทคโนโลยีที่ใช้ทำลายล้างมนุษย์ และมีการเรียกร้องจากพนักงานให้ถอนตัวจากโครงการเหล่านั้น แต่ทางกูเกิลออกมาแก้ตัวว่า ทำเฉพาะในส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทำลายล้าง

ในช่วงนี้ สำนักข่าว Techcrunch อยู่ระหว่างการสัมมนาเรื่องเทคโนโลยีหุ่นยนต์ ใครสนใจสามารถติดตามรายละเอียดความก้าวหน้าได้

March Raibert นายใหญ่ Boston Dynamics ซึ่งวันนี้อยู่ภายใต้ชายคา SoftBank บริษัทสัญชาติญี่ปุ่นซึ่งเก่งเรื่องการเอาสินค้าเทคโนโลยีมาค้าขายหรือใช้ในโลกจริงอยู่แล้ว ได้เปิดเผยเมื่อวันที่ 11-05-2018 ว่า…

บริษัทได้ผลิตหุ่นยนต์ 10 ตัวเสร็จแล้ว และปี 2019 จะเอาหุ่นยนต์ 100 ตัวออกขายจริง ไม่มีการเปิดเผยว่าขายในราคาเท่าไร แต่มีข้อมูลว่าสามารถลดต้นทุนลงไปมากถึง 10 เท่า จากหุ่นยนต์ตัวต้นแบบที่เคยผลิต

TC Sessions: Robotics 2018

.

.

https://www.bostondynamics.com/spot-mini

SoftBank is buying robotics firms Boston Dynamics and Schaft from Alphabet

https://www.softbank.jp/en/

 

Leave a Reply