ตำรวจนครบาลกรุงลอนดอนเริ่มทดลองใช้เทคโนโลยีการจดจำใบหน้าตั้งแต่วันจันทร์ที่ 17-12-2018 เพื่อตรวจหาคนที่ตำรวจและศาลต้องการตัว ทำได้โดยการสแกนใบหน้าคนที่อยู่ในที่ชุมชน และนำไปเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลที่มีใบหน้าของคนที่ต้องการตัว
ใช้เวลาในการตรวจสอบไม่กี่นาที หากพบว่าเป็นคนที่ต้องการตัวก็จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตัว และทำการตรวจสอบกันทันที
พื้นที่ในลอนดอนที่เอาเทคโนโลยี Face Recognition มาทดลองใช้ คือ Soho, Piccadilly Circus และ Leicester Square
การแสกนจะทำ 8 ชั่วโมงต่อวัน และในพื้นที่ก็จะมีตำรวจในเครื่องแบบเดินตรวจตราในที่ชุมชนด้วย โครงการนี้มีขึ้นเพื่อลดปัญหาอาชญากรรมและความรุนแรงใน Westminster
ตามรายงานข่าวแจ้งว่า ภาพหน้าของผู้คนที่มีการสแกนและเปรียบเทียบกับคนที่ต้องการตัวแล้ว หากไม่พบความผิดปกติจะลบทิ้งทันที ส่วนใบหน้าของคนที่ตรงกับผู้ที่ต้องการเฝ้าติดตามตัวจะเก็บไว้ 30 วัน
ตำรวจนครบาลกรุงลอนดอนได้แจ้งกับสาธารณะเกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ มีการแจกแผ่นพับและติดโปสเตอร์ในพื้นที่ซึ่งทำการติดตั้งระบบ และอธิบายให้ผู้คนในชุมชนทราบถึงขบวนการทำงาน
แต่เรื่องนี้ได้กลายเป็นที่วิจารณ์อย่างมาก ขณะนี้มีแคมเปญจากกลุ่มคนที่ชื่อว่า Big Brother Watch (BBW) มีการเรี่ยไรเงินเพื่อทำการโต้แย้งทางกฎหมายต่อการนำเทคโนโลยีนี้มาใช้
ผู้คนทั้งยุโรปและอเมริกาหวงแหนความเป็นส่วนตัว มีปัญหาเรื่องนี้บ่อยมากๆ มันอาจทำให้ AI ของโลกตะวันตกพัฒนาได้ช้ากว่าของจีน
โครงการในลักษณะนี้ในประเทศจีนมีมานานแล้ว แต่ไม่เคยมีข่าวการต่อต้านอะไรเลย…..